
เดินหน้าปรับโฉม 'สวนลุมพินี' ฉลองวาระครบรอบ 100 ปี ตั้งเป้าเป็นมากกว่าสวนสาธารณะ ตอบโจทย์คนยุคใหม่ทุกสถานะ11 มีนาคม 2565
กทม.เตรียมเดินหน้าปรับโฉม "สวนลุมพินี" ฉลองวาระครบรอบ 100 ปี ชูต้นแบบเป็นมากกว่าสวนสาธารณะ ให้เป็นพื้นที่สีเขียวต้อนรับผู้ใช้บริการได้ทุกสถานะ ตอบสนองวิถีชีวิตประชาชนยุคใหม่
กรุงเทพมหานคร (กทม.) จัดพิธีเปิดโครงการปรับปรุงสวนลุมพินีในวาระครบรอบ 100 ปี เมื่อวันที่ 10 มี.ค. 2565 โดยมี พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการ กทม. เป็นประธาน พร้อมด้วยคณะทูตานุทูตประเทศต่างๆ ผู้บริหารของ กทม. สำนักสิ่งแวดล้อม สำนักงานเขตปทุมวัน องค์กรเครือข่ายความร่วมมือ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมพิธี ณ ศาลาภิรมย์ภักดี สวนลุมพินี เขตปทุมวัน
สำหรับ "สวนลุมพินี" เป็นสวนสาธารณะแห่งแรกของประเทศไทย ถือกำเนิดขึ้นเมื่อปี 2468 จากสยามรัฐพิพิธภัณฑ์ตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 สู่วนะสาธารณ์ อันหมายถึงพื้นที่ป่าของสาธารณชน สวนลุมพินีจึงกลายเป็นสวนสาธารณะแห่งแรกของประเทศไทย ในปี 2568 จึงเป็นโอกาสสำคัญที่สวนลุมพินีจะมีอายุครบ 100 ปี
ทั้งนี้ กทม.ได้ตระหนักถึงความสำคัญของสวนสาธารณะขนาดใหญ่ใจกลางเมืองแห่งนี้ จึงมีนโยบายให้สำนักสิ่งแวดล้อม จัดทำโครงการปรับปรุงสวนลุมพินีในวาระครบรอบ 100 ปี เพื่อให้เป็นพื้นที่สีเขียวสาธารณะที่มีความร่มรื่น สวยงาม ทันสมัย สามารถตอบสนองกับวิถีชีวิตของประชาชนยุคใหม่ และสอดคล้องกับการพัฒนาของเมือง ในทศวรรษที่ 21
ในส่วนของการปรับปรุงจะอยู่ภายใต้แนวคิดหลักในการออกแบบ 5 ด้าน อันได้แก่ 1. การคงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ 2. ตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงสภาวะอากาศ 3. ผสานความหลากหลายทางวัฒนธรรม 4. เป็นพื้นที่สำหรับกิจกรรมนันทนาการยุคใหม่ 5. มีการออกแบบเพื่อคนทุกเพศ ทุกวัย ทุกสถานะ
พล.ต.อ.อัศวิน เปิดเผยว่า การปรับปรุงในครั้งนี้มีเป้าหมายที่จะให้สวนลุมพินี เป็นต้นแบบของสวนสาธารณะที่เป็น “มากกว่าสวนสาธารณะ” โดยนอกจากจะเป็นสถานที่ออกกำลังกาย พักผ่อนหย่อนใจของคนเมืองแล้ว ยังเปิดกว้างต้อนรับผู้ใช้บริการทุกเพศ ทุกวัย ทุกสถานะ ได้ใช้ประโยชน์ทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน อีกทั้งยังเป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ สังคม สิ่งแวดล้อม ในรูปแบบของพิพิธภัณฑ์มีชีวิต เป็นเวทีสำหรับความคิดสร้างสรรค์ ศิลปะ และนวัตกรรม หลอมรวมความหลากหลายทางวัฒนธรรม
สำหรับการปรับปรุงสวนลุมพินีในวาระครบรอบ 100 ปี แบ่งเป็น 2 เฟส โดยเฟสแรกเริ่มต้นโครงการที่บริเวณถนนแกนกลางสวนฯ ประกอบด้วย งานปรับปรุงภูมิทัศน์ถนน และงานก่อสร้างถังเก็บน้ำใต้ดิน (water bank) ความจุ 8,000 ลบ.ม. จำนวน 5 ถัง รวมความจุ 40,000 ลบ.ม. เพื่อเพิ่มพื้นที่กักเก็บน้ำ บรรเทาปัญหาน้ำท่วมขัง และงานก่อสร้างอาคารสวนลุมพินี 100 ปี ซึ่งเป็นอาคารอเนกประสงค์สำหรับจัดกิจกรรม จำนวน 1 หลัง ขณะนี้อยู่ระหว่างการหาตัวผู้รับจ้าง หลังจากนั้นคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ประมาณเดือน ส.ค. 2565 โดยจะใช้เวลาปรับปรุง 240 วัน
ส่วนเฟสที่ 2 ได้แก่ การปรับปรุงพื้นที่ส่วนที่เหลือของสวนลุมพินีทั้งหมด โดยแบ่งพื้นที่การใช้งานสวนลุมพินีออกเป็นส่วนต่างๆ ประกอบด้วย 1. สวนน้ำช่วยเมือง (Resilient Park) 2. สวนป่าและกิจกรรมยุคใหม่ (Forest Park and Modern Recreation) 3. จุดเชื่อมต่อสะพานเขียว (Green Bridge) 4. ลานรอบอาคารบันเทิง (Amphitheater Lawn) 5. สวนจีน (Chinese Garden) 6. โรงอาหารและสวนผักในเมือง (Canteen and Urban Farming) 7. สวนเพื่อการเรียนรู้ (Learning Park) 8. ชมรมและกิจกรรมนันทนาการ (Sport Club)
นอกจากนี้ ในภาพรวมยังดำเนินการปรับปรุงภูมิทัศน์และพื้นที่กายภาพต่างๆ รวมทั้งก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ประกอบด้วย งานก่อสร้างทางจักรยาน งานก่อสร้างอาคาร งานปรับปรุงอาคาร และสิ่งก่อสร้างเดิมภายในสวนลุมพินี ปรับปรุงสะพานข้ามคูน้ำภายในสวน 10 แห่ง งานปรับปรุงรั้วและประตู ก่อสร้างป้อมยาม งานปรับปรุงระบบไฟฟ้ากำลัง ระบบสายส่งไฟฟ้าลงใต้ดินและปรับปรุงระบบไฟฟ้าแสงสว่าง งานปรับปรุงระบบประปา และจัดระเบียบมิเตอร์น้ำประปา ปรับปรุงภูมิทัศน์ สนามหญ้า และการฟื้นฟูสภาพต้นไม้ใหญ่
"ในวาระที่สวนลุมพินีจะมีอายุครบรอบหนึ่งศตวรรษ เป็นโอกาสพิเศษที่สวนลุมพินีจะสะท้อนภาพความสัมพันธ์ ความร่วมมือร่วมใจจากหน่วยงานทุกภาคส่วน ทั้งสถานเอกอัครราชทูตต่างๆ ในประเทศไทย ภาครัฐ ภาคเอกชน รวมถึงภาคประชาสังคม เหมือนเมื่อครั้งแรกเริ่มกำเนิดสวนแห่งนี้ก็เกิดขึ้นได้ด้วยความร่วมมือร่วมใจของหลากหลายหน่วยงาน" ผู้ว่าราชการ กทม. กล่าว
อนึ่ง กทม.ได้เชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมชมนิทรรศการ "โครงการปรับปรุงสวนลุมพินีในวาระครบรอบ 100 ปี" ระหว่างวันที่ 10-20 มี.ค. 2564 เวลา 18.00-19.00 น. ได้ที่บริเวณสวนปาล์ม ศาลาภิรมย์ภักดี สวนลุมพินี