สช.-ภาคีร่วมสร้างสุขภาวะ 'LGBT' ชู 3 ประเด็นพัฒนาบริการสุขภาพ เอื้อผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ ปักหมุดนำร่องพื้นที่ กทม.-พัทยา
31 สิงหาคม 2566
! Font Awesome Pro 6.0.0 by @fontawesome - https://fontawesome.com License - https://fontawesome.com/license (Commercial License) Copyright 2022 Fonticons, Inc.

สช.พร้อมหน่วยงานภาคี ร่วมกันหารือเชิงยุทธศาสตร์สร้างสุขภาวะ LGBTQN+ ในประเทศไทย สู่กับขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะ พื้นที่กรุงเทพฯ-เมืองพัทยา


สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) ร่วมกับ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) สำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ (IHPP) และมูลนิธิเครือข่ายเพื่อนกระเทยสิทธิมนุยชน จัดการประชุมหารือเพื่อพัฒนาประเด็นยุทธศาสตร์สร้างสุขภาวะ LGBTQN+ เมื่อวันที่ 29 .. 2566


สำหรับการหารือร่วมกันในครั้งนี้ ได้สรุปออกมาใน 3 ประเด็นสำคัญ ได้แก่ 1. การพัฒนาศักยภาพบุคลากรทางการแพทย์ ให้มีความรู้เรื่อง Transgender 2. การปรับตัวชี้วัดระบบสาธารณสุข ให้สอดคล้องกับผู้รับบริการที่หลากหลายทางเพศ รวมถึงสิทธิประโยชน์ในการเบิกจ่ายตามสิทธิ 3. การพัฒนามาตรฐานหน่วยบริการ มีการกำหนดหลักเกณฑ์ แนะนำให้คำนิยม เพื่อให้กลุ่ม LGBTQ+ มีทางเลือกกับระบบบริการสาธารณสุข


ทั้งนี้ ใน 3 ประเด็นสำคัญดังกล่าว เบื้องต้นจะปักหมุดเริ่มทำงานในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) และเมืองพัทยา เพื่อขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ 12.2 เรื่อง วิถีเพศภาวะ: เสริมพลังสุขภาวะครอบครัว (gender Approach: Family Health Empowerment) โดยยึดโยงเป็นหลักอ้างอิงในการดำเนินงาน และสร้างกระบวนการมีส่วนร่วม ประกอบกับมติสมัชชาสุขภาพกรุงเทพมหานคร เรื่องระบบสุขภาพปฐมภูมิ และสุขภาพดีวิถีเดียว


นพ.ปรีดา แต้อารักษ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ เปิดเผยว่า ความสำคัญของความเป็นธรรมในด้านสุขภาพ คือเมื่อมนุษย์ทุกคนมีความต้องการ หรือความจำเป็นในด้านสุขภาพ เรื่องของเพศภาวะไม่ควรเป็นอุปสรรค โดย Availability of service ควรเป็นพื้นฐานแนวคิดทางสังคม และเมื่อมีข้อจำกัดเกิดขึ้น เราจะมีวิธีการจัดการอย่างไร โดยการหารือวันนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะได้วางแผนและขับเคลื่อนร่วมกันต่อไป


ขณะเดียวกัน ภายในเวทียังได้มีการนำเสนอข้อมูลสถานการณ์ปัญหาสุขภาวะของคนข้ามเพศ แผนที่เชิงนโยบายเพื่อส่งเสริมการเข้าถึงบริการด้านสุขภาวะ รวมถึงความท้ายทายและอุปสรรคในการขับเคลื่อน โดย คุณฮั๊ว ผู้แทนจากมูลนิธิเครือข่ายเพื่อนกระเทยสิทธิมนุยชน