"สสส.-ม.รังสิต-อบจ.ปทุมธานี" จับมือสร้าง "หลักหกโมเดล" ฟื้นฟูคุณภาพชีวิต-เสริมสร้างสุขภาพคนในพื้นที่ พร้อมเตรียมจัดตั้ง "ศูนย์พัฒนาหลักหก" เป็นศูนย์กลางความช่วยเหลือ สร้างอาชีพ-รายได้-จัดการสิ่งแวดล้อมเอื้อสุขภาวะ

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ มหาวิทยาลัยรังสิต และองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี จัดงานแถลงข่าวความร่วมมือ 3 ประสาน มุ่งสร้างเสริมสุขภาพ สร้างสุขภาวะ และคุณภาพชีวิตที่ดีในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2565 โดยทั้ง 3 หน่วยงานจะร่วมกันพัฒนา “แผนงานร่วมทุนสนับสนุนการพัฒนาสุขภาวะจังหวัดปทุมธานี” 

ทั้งนี้ ในปี 2565 สสส.จะร่วมทุน 70% ร่วมกับ ม.รังสิต ที่ร่วมทุน 30% พร้อมจัดตั้ง “ศูนย์พัฒนาหลักหก” เป็นหน่วยงานดูแลด้านงบประมาณและการสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ในพื้นที่ มุ่งฟื้นฟูคุณภาพชีวิตให้ครอบคลุมทุกคนในพื้นที่ จ.ปทุมธานี ให้เป็นพื้นที่ต้นแบบในการฟื้นฟูคุณภาพชีวิตโดยมีแนวทางพึ่งพาตัวเองสามารถปรับตัวดำรงชีวิตในสภาวะวิกฤต

ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการ สสส. เปิดเผยว่า สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 แต่ละระลอก สร้างผลกระทบโดยตรงกับคนไทยอย่างรุนแรง ทั้งด้านสุขภาพ เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้คุณภาพชีวิตที่ดีลดลง สสส.จึงได้ริเริ่มโครงการฟื้นฟูคุณภาพชีวิตและส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากเพื่อการสร้างเสริมสุขภาวะ ในปี 2563 เกิดเป็นโครงการย่อยทั่วประเทศกว่า 100 โครงการ

ภายใต้โครงการดังกล่าว มีหน่วยการจัดการทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยง 5 หน่วย ได้แก่ กลุ่มเกษตรในเมือง กลุ่มชายแดนใต้ กลุ่มแรงงานในระบบ กลุ่มแรงงานนอกระบบ และกลุ่มสร้างอาชีพและรายได้ (ม.รังสิต) ที่ดำเนินการถึง 33 โครงการ ที่เป็นโครงการนำร่องที่ส่งเสริมความเข้มแข็งของชุมชนที่สามารถนำไปต่อยอดในแต่ละชุมชนได้ ส่งผลให้ผู้เข้าร่วมโครงการมีทักษะอาชีพที่สามารถพึ่งพาตัวเองได้ กว่า 1,000 คน

ดร.สุปรีดา กล่าวว่า การร่วมทุนครั้งนี้สิ่งสำคัญคือสร้างการขยายความร่วมมือ และผนึกกำลังภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม เข้ามาร่วมเป็นหุ้นส่วนสร้างเสริมสุขภาพ เพื่อเพิ่มทรัพยากรทั้งทุนด้านงบประมาณ ทุนทางสังคม ทุนบุคลากรและองค์ความรู้ ซึ่งจะช่วยกระจายและการเข้าถึงการขับเคลื่อนงานสร้างเสริมสุขภาพ นำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทยในวงกว้างมากขึ้น

ด้าน ผศ.ดร.นเรฏฐ์ พันธราธร รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย ม.รังสิต กล่าวว่า ปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาวะของประชาชนใน จ.ปทุมธานี ในปี 2564 ทั้งด้านเศรษฐกิจ มีผู้ว่างงานกว่า 17,000 คน ขาดรายได้ มีหนี้สิน ด้านสุขภาพจากโรคเรื้อรัง พบมีโรคประจำตัวเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจเรื้อรังรุนแรง 8,338 คน โรคไต 12,069 คน โรคมะเร็ง 4,658 คน โรคเบาหวาน 18,475 คน โรคอ้วน 34,448 คน และด้านสิ่งแวดล้อม ทั้งเรื่องน้ำเน่าเสีย การกำจัดขยะ และภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นอย่างอุทกภัย และสภาพสังคมที่ไม่ปลอดภัย

สำหรับความร่วมมือนี้ สสส.จะพัฒนาแผนงานร่วมทุนสนับสนุนการพัฒนาสุขภาวะ จ.ปทุมธานี โดยแบ่งการบูรณาการกับทุกภาคส่วนออกเป็น 3 เฟส คือ เฟสที่ 1 พัฒนาพื้นที่ชุมชนหลักหก 80% และชุมชนใกล้เคียง 20% เฟสที่ 2 พัฒนาพื้นที่ชุมชนหลักหก 50% และชุมชนใกล้เคียง 50% และเฟสที่ 3 จ.ปทุมธานี ทั้งหมดที่มีผู้อาศัยมากถึง 1,176,412 คน เพื่อเร่งยกระดับคุณภาพชีวิตและแก้ไขปัญหาที่สอดคล้องกับบริบทของพื้นที่ที่เกิดขึ้นอย่างตรงจุด