ต่อยอดพื้นที่ความสุขด้วยธรรมนูญชุมชน ที่บ้านตะวันยิ้ม

! Font Awesome Pro 6.0.0 by @fontawesome - https://fontawesome.com License - https://fontawesome.com/license (Commercial License) Copyright 2022 Fonticons, Inc.

(เรื่องเล่าจากพื้นที่)

... บัณฑิต มั่นคง

 

กิจกรรมการเรียนรู้ของบ้านตะวันยิ้ม ตำบลคุ้งตะเภา จังหวัดอุตรดิตถ์ นับเป็นพื้นที่ต้นแบบเชิงนโยบายที่เกิดจากการพัฒนาและขับเคลื่อนสุขภาวะในด้านเด็กเยาวชน ด้านเกษตรอินทรีย์และอาหารปลอดภัย

ที่นี่นับว่าเป็นพื้นที่กลางเชื่อมโยงระหว่างภาครัฐ เอกชนและภาคประชาชน โดยเริ่มก่อรูปและสานพลังร่วมกับเครือข่ายต่างๆ มาตั้งแต่ปี ๒๕๔๘ ปัจจุบันได้ขยายแนวคิดการจัดทำภาพพึงประสงค์ครอบคลุมในระดับตำบล ทั้ง ๘ หมู่บ้าน โดยมี รพ.สต. คุ้งตะเภา ผู้นำชุมชนและทีมพี่เลี้ยงร่วมมือกันขับเคลื่อนงานอย่างเข้มแข็ง

ในปี ๒๕๖๔ ตำบลคุ้งตะเภา เป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่ได้นำแนวคิดการจัดทำธรรมนูญสุขภาพเพื่อใช้แนวทางการสร้างสุขภาวะในเด็กเยาวชนและด้านเกษตรปลอดภัยนั้น การดำเนินงานในพื้นที่ถือว่าสอดรับกับทิศทางของธรรมนูญระบบสุขภาพ ที่ระบุว่าธรรมนูญชุมชนถือเป็นกติการ่วม ข้อตกลงร่วมของคนในชุมชนที่เกิดจากการตระหนักร่วมกันของคนในชุมชน

โดยเริ่มจากการวิเคราะห์ประเด็นปัญหาร่วม ชักชวนทุกภาคส่วนมาร่วมกันทำงาน ร่วมกันกำหนดเป้าหมาย ออกแบบอนาคตสุขภาวะของชุมชน อีกนัยยะหนึ่งนั้น ถือเป็นการกำหนดกรอบนโยบายการพัฒนาสุขภาวะตามบริบทและความต้องการของพื้นที่อย่างมีส่วนร่วม


อัฑฒพงศ์ โมลี เจ้าของพื้นที่ความสุขบ้านตะวันยิ้ม ทีมพี่เลี้ยงธรรมนูญสุขภาพชุมชนคุ้งตะเภา ปัจจุบันเป็นเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลอุตรดิตถ์ กล่าวในการประชุมสรุปบทเรียนการขับเคลื่อนธรรมนูญชุมชน เมื่อ ๒๒ กันยายน ๒๕๖๔ ที่ผ่านมา ว่า “กิจกรรมในบ้านตะวันยิ้ม เป็นส่วนหนึ่งของการเป็นพื้นที่ต้นแบบของการเรียนรู้ตำบลคุ้งตะเภา ของกรรมการเขตสุขภาพเพื่อประชาชน (กขป.๒) ในประเด็นการพัฒนาเด็กและเยาวชน ประเด็นอาหารปลอดภัย และประเด็นผู้สูงอายุ

ที่ผ่านมา มีการจัดกิจกรรมที่เอื้อต่อการสร้างสุขภาวะ ได้แก่ อาชาบำบัด (สำหรับเด็กสมาธิสั้น ออทิสติก) มีกิจกรรมที่เน้นการพัฒนาทักษะชีวิตเด็กในชุมชน พื้นที่เรียนรู้ทั้ง ๑๗ ไร่ ใช้เป็นพื้นที่เรียนรู้การปลูกผักสวนครัวสร้างความมั่นคงทางอาหารปลอดภัยในครอบครัว (ระบบเกษตรอินทรีย์)”

และในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด–19 อัฑฒพงศ์ ยังบอกอีกว่า คณะทำงานได้วิเคราะห์ปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตเด็กเยาวชนในพื้นที่ตำบลคุ้งตะเภาไว้ เช่น เด็กใช้เวลาอยู่กับโทรศัพท์ คอมพิวเตอร์มากขึ้น ไม่สนใจช่วยทำกิจวัตรประจำวันหรือกิจกรรมอื่นๆ ในบ้าน สมาธิสั้น ดื้อรั้นไม่เชื่อฟัง เมื่อถูกห้ามไม่ให้เล่นมักมีพฤติกรรมก้าวร้าว ตัวผู้ปกครองเองมักไม่มีทางเลือกที่หลากหลายให้เด็กทำ

นอกจากนี้ยังพบว่าเด็กมีความเครียดกับการเรียนออนไลน์ ทั้งไม่เข้าใจในบทเรียน ทั้งจากระบบการสอน จากอุปกรณ์หรือจากระบบที่ไม่ดี ทำให้เด็กขาดการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง กระทั่งไม่อยากเรียนหนังสือ ในส่วนพฤติกรรมทางด้านสุขภาพที่เปลี่ยนไป เช่น เด็กมักกินอาหารและขนม ขณะที่เล่นมือถือ ทำให้มีน้ำหนักเพิ่มขึ้น


นำมาสู่ทางออกที่เสนอร่วมกันเป็นธรรมนูญหรือกติกาไว้ข้อหนึ่งคือ ผู้ปกครองทุกคนจะร่วมกันแบ่งเวลา มาจัดกิจกรรมเสริมทักษะการใช้ชีวิตของบุตรหลานตนเอง คิดค้นกิจกรรมที่สร้างสรรค์อื่นๆ (แทนการไปรวมกลุ่มที่บ้านตะวันยิ้ม) และให้มีการนำบทเรียน ประสบการณ์ ความรู้มาแลกเปลี่ยนกันในระบบ Online ทุกวันพฤหัสบดี เวลา ๑๙.๐๐ น.

กิจกรรมการสร้างสุขภาวะให้กับเด็กและเยาวชนของบ้านตะวันยิ้ม ถือเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงใน ร่างธรรมนูญสุขภาพตำบลคุ้งตะเภา ที่คณะกรรมการได้ช่วยกันยกร่างขึ้น เพื่อเป็นพื้นที่แห่งความสุขสำหรับเด็กๆ ในตำบลคุ้งตะเภาและพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งการทำงานดังกล่าวได้ขยายการทำงานไปถึงเครือข่ายอีกหลายแห่งในอุตรดิตถ์ทั้ง ไร่ลุงรัง บ้านนอกสบายดี เชื่อมกับสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นต้น

รูปธรรมความสำเร็จเล็กๆ ที่เกิดจากกระบวนการจัดทำธรรมนูญสุขภาพที่คุ้งตะเภา จังหวัดอุตรดิตถ์สะท้อนให้เห็นว่า การกำหนดนโยบายสาธารณะนั้นสามารถทำได้ทุกระดับ ยิ่งถ้าตั้งอยู่บนบริบทและความต้องการของพื้นที่นั้นๆ รวมถึงกระบวนการทำงานมีส่วนร่วม นโยบายจะกลายมาเป็นข้อตกลงร่วมกันของคนในพื้นที่ สามารถร่วมกันปฏิบัติได้จริง

เป็นการคลี่ภาพ “พึงประสงค์ร่วม” ที่ทุกภาคส่วนนำไปใช้ในงาน ในหน่วยงาน ในชุมชนท้องถิ่นได้ และตอกย้ำว่าเป็นเครื่องมือสร้างการเปลี่ยนแปลงต่อระบบสุขภาพของทุกๆ คนได้จริง

 3 ธันวาคม 2564