7 กระทรวงร่วมลงนามข้อตกลง พร้อม 'พัฒนาคนตลอดช่วงชีวิต' หนุนงาน 'เด็กปฐมวัย-ผู้สูงอายุ' มุ่งเป้าสุขภาพดี-มีทักษะ-ทันดิจิทัล
24 มีนาคม 2565
! Font Awesome Pro 6.0.0 by @fontawesome - https://fontawesome.com License - https://fontawesome.com/license (Commercial License) Copyright 2022 Fonticons, Inc.

7 กระทรวงร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง พร้อมบูรณาการ "พัฒนาคนตลอดช่วงชีวิต" หนุนงานด้านกลุ่มเด็กปฐมวัย-ผู้สูงอายุ ปี 2565-2569 มุ่งเป้าเด็กเติบโตเต็มศักยภาพ-พัฒนาการสมวัย ผู้สูงอายุมีความปลอดภัย-แข็งแรง


​เมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2565 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงการบูรณาการความร่วมมือ 7 กระทรวง : การพัฒนาคนตลอดช่วงชีวิต (กลุ่มเด็กปฐมวัย และผู้สูงอายุ) พ.ศ.2565-2569 พร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการและผู้บริหารกระทรวงทั้ง 7 ประกอบด้วย กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เข้าร่วม

สำหรับการลงนามบันทึกข้อตกลง 7 กระทรวงในครั้งนี้ จะดำเนินตามเป้าประสงค์ของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) คือ เด็กปฐมวัยมีการเจริญเติบโตเต็มศักยภาพ พัฒนาการสมวัย มีคุณภาพชีวิตที่ดี ได้รับบริการและคุ้มครองอย่างทั่วถึงเท่าเทียมตามมาตรฐาน ภายใต้กรอบการบูรณาการความร่วมมือการพัฒนาคนตลอดช่วงชีวิต 5H ประกอบด้วย 1. Heart จิตใจดี มีวินัย 2. Head เก่งคิด วิเคราะห์เป็น 3. Hand ใฝ่เรียนรู้ มีทักษะ 4. Health สุขอนามัยดี สุขภาพแข็งแรง 5. Hi-tech ทันสมัย ก้าวหน้า รู้เท่าทันเทคโนโลยี

นอกจากกลุ่มปฐมวัยแล้ว กลุ่มผู้สูงอายุ ถือเป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่ควรให้ความสำคัญภายใต้วิสัยทัศน์ผู้สูงวัยเป็นหลักชัยของสังคม ด้วยหลัก 4S ประกอบด้วย 1. Social Participation ส่งเสริมการมีส่วนร่วมในสังคม 2. Social Security ส่งเสริมความมั่นคง ปลอดภัย 3. Strong Health ส่งเสริมสุขภาพให้แข็งแรง 4. Smart Digital and Innovation ส่งเสริมเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมอย่างชาญฉลาด

ในส่วนบทบาทหน้าที่ของแต่ละกระทรวงในการดำเนินงานร่วมกันแบบบูรณาการอย่างมีประสิทธิภาพนั้น ได้กำหนดบทบาท ได้แก่ 1. กระทรวงมหาดไทย ดำเนินงานสนับสนุนส่งเสริมให้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และโรงเรียนที่จัดการศึกษาระดับปฐมวัยให้มีคุณภาพและมาตรฐาน รวมทั้งส่งเสริม สนับสนุนการดำเนินงานอาสาสมัครบริบาลท้องถิ่นในการดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง

2. กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ดำเนินงานพัฒนาเด็กปฐมวัยและกลุ่มด้วยการเสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพผู้ปฏิบัติงานด้านเด็กปฐมวัยให้สามารถดูแล พัฒนา คุ้มครอง ฟื้นฟู ให้เด็กปฐมวัยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ผ่านระบบ e-learning และส่งเสริมศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพผู้สูงอายุคุณภาพเป็นพื้นที่ต้นแบบการบูรณาการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในทุกมิติ

3. กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ให้ความร่วมมือในดำเนินงานส่งเสริม สนับสนุนพ่อแม่ ผู้ปกครอง ได้เข้าถึงข้อมูลและบริการของภาครัฐที่เกี่ยวข้องด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างทั่วถึงและปลอดภัย รวมทั้งพัฒนาผู้สูงอายุให้มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีควบคู่กับความรอบรู้ทางดิจิทัล และรู้เท่าทันสื่อดิจิทัลอย่างสร้างสรรค์

4. กระทรวงแรงงาน ดำเนินงานคุ้มครองและส่งเสริมหญิงตั้งครรภ์ หญิงหลังคลอดให้ได้รับสิทธิและสวัสดิการที่เหมาะสม และสนับสนุนการจัดตั้งมุมนมแม่ สถานพัฒนาเด็กปฐมวัยในสถานประกอบกิจการ รวมทั้งพัฒนาฝีมือแรงงานและพัฒนารูปแบบการฝึกอบรมให้แก่ผู้สูงอายุ ด้านการส่งเสริมทักษะฝีมือและการประกอบอาชีพตามความต้องการของผู้สูงอายุ

5. กระทรวงศึกษาธิการ ดำเนินงานส่งเสริมและพัฒนาครูและบุคลากรในการจัดการศึกษาปฐมวัยให้มีความรู้และทักษะที่สอดคล้องกับหลักการพัฒนาเด็กปฐมวัยอย่างรอบด้าน รวมทั้งสนับสนุนพัฒนาศักยภาพผู้ดูแลผู้สูงอายุร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงในครอบครัว ในชุมชน และส่งเสริมการมีงานทำของประชากรวัยแรงงาน

6. กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ดำเนินงานสนับสนุนความรู้และร่วมพัฒนาทักษะบุคลากรด้านการวิจัยและการผลิตนวัตกรรม สำหรับการส่งเสริมสุขภาพในชุมชนเพื่อการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุและพัฒนาระบบเทคโนโลยี Digital platform ที่เกี่ยวกับการพัฒนาระบบการส่งเสริมสุขภาพ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข เปิดเผยว่า สำหรับ สธ. มีนโยบายในการส่งเสริมสุขภาพของประชาชนทุกช่วงวัย โดยเฉพาะการส่งเสริมสุขภาพให้เด็กปฐมวัยทุกคนได้รับการพัฒนาตามวัยอย่างมีคุณภาพและต่อเนื่อง โดยกำหนดเป้าหมายให้เด็กแรกเกิดถึง 5 ปี จำนวน 85% มีพัฒนาการสมวัย และเด็กพัฒนาการสงสัยล่าช้า มีการแนะนำให้ผู้ปกครองไปกระตุ้นพัฒนาการ โดยใช้คู่มือเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย (DSPM) ได้อย่างเหมาะสม

นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงกลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยกำลังเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางประชากรเข้าสู่สังคมสูงอายุ (Aged Society) อย่างรวดเร็ว โดยคาดว่าในปี พ.ศ.2583 จะมีผู้สูงอายุเพิ่มเป็น 31% หรือประมาณ 20.5 ล้านคนของประชากรทั้งหมด จึงจำเป็นและมีความสำคัญต่อการพัฒนาศักยภาพคนไทยให้เติบโตเป็นคนที่มีคุณภาพ และมีสุขภาพดี โดยการพัฒนาคนให้เติบโตอย่างมีคุณภาพต้องเริ่มตั้งแต่ช่วงปฐมวัย ซึ่งเป็นช่วงเวลาของการสร้างรากฐานของชีวิตทุกด้าน ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สติปัญญา อารมณ์ และสังคม

"ที่สำคัญสมองของมนุษย์มีกระบวนการพัฒนาอย่างรวดเร็ว สมองจะเติบโตถึง 80% ของสมองผู้ใหญ่ ตั้งแต่ขณะเป็นทารกในครรภ์จนถึงอายุประมาณ 3 ปี หากเด็กไม่ได้รับการกระตุ้นอย่างเหมาะสม จะเกิดผลกระทบต่อการสร้างเส้นใยประสาท ทำให้สมองพัฒนาไม่เต็มที่ ศักยภาพการเรียนรู้ลดลง ส่งผลต่อการพัฒนาศักยภาพและการเรียนรู้ตลอดชีวิตของคนไทยในอนาคต" นายอนุทิน กล่าว