บอร์ดคุ้มครองเด็กแห่งชาติ เห็นชอบ 3 มาตรการแก้ปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มเด็ก ลุยปราบร้านบุหรี่ไฟฟ้ารอบสถานศึกษา และดำเนินคดีกับผู้ปกครองที่ส่งเสริมให้เด็กขายหรือใช้บุหรี่ไฟฟ้า
22 มกราคม 2568
! Font Awesome Pro 6.0.0 by @fontawesome - https://fontawesome.com License - https://fontawesome.com/license (Commercial License) Copyright 2022 Fonticons, Inc.

วันที่ 22 มกราคม 2568 ณ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กรุงเทพ ฯ
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะประธานกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติ ครั้งที่
1/2568
โดยมีวาระการพิจารณาการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าในเด็ก พร้อมเห็นชอบ
3 มาตรการแก้ไขปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าอย่างจริงจัง

          นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวในที่ประชุมว่า ปี พ.ศ. 2567 ที่ผ่านมาอัตราการเกิดของประชากรไทยลดต่ำลงอย่างมาก และนับว่า
ต่ำที่สุดในรอบ
75 ปี โดยข้อมูลจากกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ระบุถึงข้อมูลประชากรไทย ปี 2567
มีทั้งสิ้น 65
,951,210 คน และมีการเกิดของประชากรใหม่เพียง 462,240 คน จึงเป็นเรื่องที่น่ากังวล
อย่างยิ่ง หากประเทศไทยมีแนวโน้มการเกิดที่ต่ำลง และเด็กที่เกิดมายังต้องเผชิญกับปัญหาของบุหรี่ไฟฟ้า
ในมิติคุณภาพชีวิต หรือครอบครัวและการอนามัยเจริญพันธ์ รวมถึงการพัฒนาประเทศชาติจะทำได้มีประสิทธิภาพหรือไม่เพราะเด็กและเยาวชนสูญเสียสุขภาพตั้งแต่ก่อนวัยอันควรจากบุหรี่ไฟฟ้า  

พม. ตระหนักถึงปัญหาและติดตามการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มเด็กและเยาวชน
มาโดยตลอด ซึ่งจากข้อมูลจากสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย (ยท.) ที่นำเสนอวันนี้สะท้อนให้เห็นความ
น่าเป็นกังวลอย่างยิ่งโดยเฉพาะการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มเด็กอายุยังน้อยและในเด็กผู้หญิง ทั้งนี้จะมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมกิจการเด็กและเยาวชน และหน่วยงานในจังหวัดเร่งรัดดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามมติของคณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติต่อไป

ด้านนายพชรพรรษ์ ประจวบลาภ เลขาธิการสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย กล่าวต่อด้วยว่า
สถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย (ยท.) ภายใต้การทำงานร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้มี 3 มาตรการที่ขอให้คณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติมีมติเห็นชอบ ประกอบไปด้วย
ข้อที่
1  ให้คณะกรรมการคุ้มครองเด็กกรุงเทพมหานครและคณะกรรมการคุ้มครองเด็กจังหวัด คุ้มครองสวัสดิภาพเด็กผ่านการบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำความผิดที่จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าให้กับเด็ก โดยเฉพาะร้านจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้ารอบสถานศึกษา ซึ่งเป็นความผิดตามมาตรา 26 (10) ผู้ปกครองต้องไม่กระทำการดังต่อไปนี้
จำหน่าย แลกเปลี่ยน หรือให้สุราหรือบุหรี่แก่เด็ก เว้นแต่การปฏิบัติทางการแพทย์ ข้อที่
2 บังคับใช้กฎหมายกับ ผู้ปกครองที่จงใจหรือละเลยปล่อยให้เด็กและเยาวชน ซื้อใช้หรือเป็นตัวแทนจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าความผิดตามมาตรา 25 (4) ปฏิบัติต่อเด็กในลักษณะที่เป็นการขัดขวางการเจริญเติบโตหรือพัฒนาการของเด็ก  และมาตรา 26 (3) บังคับ ขู่เข็ญ ชักจูง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควรหรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิด โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546

นอกจากนี้ข้อที่ 3 ยังมอบหมายให้กองทุนคุ้มครองเด็กทั้งส่วนกลางและภูมิภาค สนับสนุนงบประมาณ
ให้หน่วยงานท้องที่หรือหน่วยงานอื่น ๆ สำหรับการอบรมให้ความรู้แก่กลุ่มผู้ปกครอง เด็ก และเยาวชน เกี่ยวกับผลกระทบหรือภัยทางสุขภาพจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มผู้ปกครองที่ยังขาดความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าอีกด้วย