สช.-สปสช.-สสส.หารือผู้ว่าฯใหม่ หนุนเสริมการทำงาน 214 นโยบาย ยกระดับระบบสุขภาพปฐมภูมิ กทม. เชื่อมประชาชนผ่านเครื่องมือในพื้นที่
1 มิถุนายน 2565
! Font Awesome Pro 6.0.0 by @fontawesome - https://fontawesome.com License - https://fontawesome.com/license (Commercial License) Copyright 2022 Fonticons, Inc.

สช.-สปสช.-สสส. จับมือเข้าหารือกับผู้ว่าฯ กทม. คนใหม่ มุ่งเป้าสนับสนุน-ต่อยอดนโยบาย ยกระดับระบบสุขภาพปฐมภูมิของคนกรุง บนฐานการทำงาน-ต้นทุน-เครื่องมือต่างๆ ของภาคีเครือข่ายที่มี


คณะผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) พร้อมด้วยหน่วยงานภาคีด้านสุขภาพ อาทิ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เข้าร่วมประชุมกับ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เมื่อวันที่ 31 พ.ค. 2565 เพื่อหารือถึงการยกระดับการทำงานปฏิรูประบบสุขภาพปฐมภูมิ

สำหรับประเด็นสำคัญของการพูดคุย คือเรื่องของระบบสุขภาพปฐมภูมิและการมีส่วนร่วมของกลไกต่างๆ ด้านสุขภาพ ในพื้นที่ กทม. ซึ่งสอดคล้องกับแนวนโยบายที่ผู้ว่าฯ ได้หาเสียง และถือเป็นโอกาสในการต่อจิ๊กซอว์การทำงาน เพื่อยกระดับและจัดระบบสุขภาพของคน กทม. ให้ดีขึ้น โดยเน้น 2 เป้าหมายหลัก ได้แก่ 1. การสนับสนุนกลไกต่อยอดนโยบาย 214 ข้อขอผู้ว่าฯ ด้านสุขภาพดีในทุกมิติ ทั้งกายภาพ และระบบสร้างเสริมสุขภาพของคนทุกคนใน กทม.


2. สร้างการมีส่วนร่วมภาคประชาชนผ่านเครื่องมือ สมัชชาสุขภาพกรุงเทพมหานคร เป็นเวทีกลางในการพัฒนาประเด็นสาธารณะสู่การปฏิบัติ และเป็นกระบวนการวิเคราะห์ช่องว่างหาความร่วมมือที่สร้างสรรค์ รวมถึงธรรมนูญสุขภาพในระดับเขต หรือกติกาชุมชน ซึ่งบางพื้นที่ใช้กำหนดเป็นทิศทางเพื่อเป็นกรอบในการอยู่ร่วมกัน โดยมุ่งโจทย์ร่วมว่าจะทำอย่างไรให้กองทุนสุขภาพเขต ที่มีงบประมาณหลักพันล้านบาท มาสนับสนุนกลไกระดับชุมชนให้ขับเคลื่อนการทำงานในประเด็นของชุมชนเอง 

นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ เปิดเผยว่า ขณะนี้เป็นโอกาสสำคัญที่จะสร้างการมีส่วนร่วม โดยเริ่มต้นจากมิติด้านสุขภาพ ซึ่งมีกลไกและเครือข่ายการทำงานในระดับพื้นที่อยู่แล้ว หากแต่จะทำอย่างไรเพื่อให้เกิดความเข้มข้น และขยายคำว่าสุขภาพดีนี้ให้ครอบคลุมทั่วทั้ง กทม. ซึ่งภารกิจนี้ต้องอาศัยความรู้ กระบวนการ เครื่องมือ และต้นทุนที่ภาคีเครือข่ายต่างๆ มีอยู่

นพ.จเด็จ ธรรมรัชอารี เลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า ปัจจัยที่ สปสช.ไม่สามารถเติมเงินอุดหนุนกองทุนหลักประกันสุขภาพกว่า 500 ล้านบาท ให้กับ กทม.ได้ เนื่องจากการเขียนโครงการของภาคประชาชนต่อกองทุนสุขภาพยังมีจำนวนน้อย และยังไม่มีแผนงานที่ชัดเจนในการสร้างประโยชน์ต่อสาธารณะในวงกว้าง


"ขณะนี้จึงมีเงินอยู่มากกว่า 1,140 ล้านบาท ในกองทุนหลักประกันสุขภาพกรุงเทพมหานคร ซึ่งควรจะถือโอกาสนี้สร้างการมีส่วนร่วม และมาร่วมกันกำหนดทิศทาง เพื่อให้กลไกภาคสังคมได้เขียนเสนอโครงการต่อกองทุนนี้ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในระดับพื้นที่ต่อไป" นพ.จเด็จ กล่าว

ขณะที่ ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการ สสส. กล่าวว่า ในส่วนของ สสส.มีการทำงานเรื่องของปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพอยู่แล้วในระดับพื้นที่ โดยสามารถสนับสนุนกิจกรรมและรณรงค์ให้ประชาชนใน กทม. มีสุขภาพที่ดีและสร้างภูมิคุ้มกันได้ รวมถึงพร้อมสนับสนุยนโยบายของผู้ว่าฯ ที่มีความครอบคลุม และสามารถเริ่มทำงานได้ทันที

ด้าน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า จากการเดินสำรวจพื้นที่และหาเสียงตลอดระยะเวลากว่า 2 ปีครึ่ง พบว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาสะสมซ้ำซาก ที่มีลักษณะคล้ายกัน ซึ่งแนวทางการแก้ไขปัญหาเหล่านี้จะใช้เพียงนโยบายของผู้ว่าฯ อย่างเดียวไม่ได้ แต่ต้องสร้างพลังร่วมของประชาชนทุกคน มาร่วมคิด ร่วมตัดสินใจ ร่วมทำงาน เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง

"ผู้ว่าฯ มีอำนาจเชิงบริหารก็จริง แต่ประชาชนมีหน้าที่ร่วมติดตามและขับเคลื่อนการทำงานที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธิภาพ ครั้งนี้จึงเป็นโอกาสดีที่จะได้สร้างการมีส่วนร่วมใน กทม. และนโยบายที่มีอยู่เดิม 214 ข้อ อาจยืดหยุ่นเป็น 300-400 ข้อก็ได้ หากประชาชนเสนอมา เราคงต้องมาทำให้ กทม.เป็นเมืองที่น่าอยู่ของทุกคน" นายชัชชาติ กล่าว


นายชัชชาติ ยังกล่าวด้วยว่า อาจให้เร่งหารือกันภายในวันศุกร์ที่จะถึงนี้ พร้อมกำหนดเป้าหมายที่อยากเห็นอะไรใน 100 วัน เป้าหมายระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว 4 ปี ที่ต้องมีรูปธรรมเชิงระบบ ไม่ทำเป็นนโยบาย โครงการ ที่มาแล้วหายไป

อนึ่ง เครือข่ายปลุกกรุงเทพกว่า 80 องค์กร เป็นกระบวนการพัฒนานโยบายสาธารณะแบบมีส่วนร่วมรูปแบบหนึ่ง ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมการเมืองภาคประชาชนที่เกิดจากความหลากหลาย โดยมีหน่วยงานหลัก อาทิ ไทยพีบีเอส สช. ที่เล็งเห็นความสำคัญและกำลังพัฒนาจุดเชื่อมโยง เพื่อให้เครือข่ายดังกล่าวสามารถมีรูปแบบการทำงานเสริมหนุน ติดตาม และร่วมผลักดันนโยบายของผู้ว่าฯ กทม. เพื่อทำให้ กทม. เป็นเมืองที่น่าอยู่ของทุกคน