‘Big Data-แก้จน-บำนาญถ้วนหน้า’ 3 วาระ ‘สมัชชาสุขภาพฯ ครั้งที่ 15’ คจ.สช.สานพลังกลุ่มคน ‘Next Gen’ ร่วมสร้างความเป็นธรรมด้านสุขภาพ
4 กรกฎาคม 2565
! Font Awesome Pro 6.0.0 by @fontawesome - https://fontawesome.com License - https://fontawesome.com/license (Commercial License) Copyright 2022 Fonticons, Inc.

ประธาน คจ.สช. เผย ประเด็นจัดงานสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 15 "บิ๊กดาต้าการเล่นกีฬา-แก้จนในครัวเรือน-บำนาญประชาชน" เชื่อมโยงความต้องการ 4 ด้านของคนไทย พร้อมดึง Next Generation กลุ่มคนรุ่นต่อไป เข้ามาสานพลังเครือข่ายสมัชชาสุขภาพ


นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ ประธานคณะกรรมการจัดสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ (คจ.สช.) ครั้งที่ 15-16 ประจำปี 2565-2566 เปิดเผยว่า คจ.สช. ได้พิจารณาและกำหนดประเด็นหลัก (Theme) ของงานสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 15-16 ซึ่งจะจัดขึ้นช่วงปลายปี 2565 และ ปลายปี 2566 เป็นธีมเดียวกัน นั่นคือ “ความเป็นธรรมด้านสุขภาพ โอกาสและความหวังอนาคตประเทศไทย”

นายชาญเชาวน์ กล่าวว่า เหตุผลสำคัญของการกำหนดประเด็นหลักดังกล่าว เกิดขึ้นจากการระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำด้านการเข้าถึงระบบสุขภาพของประชาชนอย่างมาก จึงเป็นที่มาว่า เครือข่ายสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ รวมถึงผู้กำหนดนโยบายจะต้องมีการพิจารณา พูดคุยถึงความเป็นธรรมด้านระบบสุขภาพของประเทศ 

สำหรับประเด็นหลักในภาพกว้างที่จะเข้าสู่การจัดทำเป็นระเบียบวาระและพิจารณาในงานสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 15 มีด้วยกัน 3 ประเด็นใหญ่ ได้แก่ 1. การจัดทำฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ด้านการออกกำลังกายและการเล่นกีฬาของคนไทย ซึ่งเป็นข้อมูลที่เราไม่เคยมีมาก่อนในประเทศ 2. การแก้ปัญหาความยากจนระดับครัวเรือนที่เป็นผลมาจากนโยบายภาครัฐ และ 3. การจัดทำบำนาญถ้วนหน้าสำหรับประชาชน 

นายชาญเชาวน์ อธิบายว่า การจัดทำข้อมูลการออกำลังกาย-เล่นกีฬาของคนไทยทั้งประเทศ ที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเป็นผู้นำเสนอ จะทำให้เห็นถึงข้อมูลที่สะท้อนออกมาโดยตรงจากประชาชน เพื่อรัฐบาลจะได้นำข้อมูลไปกำหนดนโยบายที่เหมาะสมกับสุขภาพของคนไทยได้ ขณะที่ประเด็นปัญหาความยากจน ที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เสนอ ก็ได้รับความสนจากประชาชนเช่นกันว่าหน้าตาของนโยบายจะเป็นอย่างไร หรืออย่างเรื่อง "บำนาญ" ที่มุ่งเป้าไปยังการสร้างสวัสดิการบำนาญให้กับคนไทยทุกคน ไม่ใช่ได้เฉพาะข้าราชการเพียงอย่างเดีย

นายชาญเชาวน์ กล่าวต่อไปว่า เมื่อระดมความเห็นจากเครือข่ายสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ก็พบว่าทั้ง 3 ประเด็นหลัก จะครอบคลุมการต่อยอดพัฒนาใน 4 ด้านของสังคม ที่เป็นความต้องการของภาคประชาชน คือ 1. ประชาชนต้องการเห็นแนวทางการพัฒนาคุณภาพชีวิต 2. ประชาชนต้องการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและเทคโนโลยีควบคู่ไปด้วย 3. ประชาชนต้องการให้มีแนวทางการพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 4. ประชาชนต้องการเข้าถึงความเท่าเทียม ความยุติธรรม และการสร้างสังคมให้สงบสุข 

ทั้ง 4 ด้านจะมีการเชื่อมโยงมายังประเด็นหลักทั้งหมด อีกทั้งเครือข่ายสมัชชาสุขภาพแห่งชาติยังต้องการให้เครือข่ายคนรุ่นต่อไป หรือกลุ่ม Next Generation เข้ามามีบทบาทกับเครือข่ายสมัชชาสุขภาพแห่งชาติมากขึ้น ซึ่งขณะนี้ก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มคนรุ่นต่อไป ที่ต้องการเข้ามาร่วมทำงานขับเคลื่อน 

"ประชาชน ภาคเอกชน ที่อยากจะเข้ามามีส่วนร่วม ก็สามารถเสนอแนวนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมได้ ผ่านกิจกรรมต่างๆ ที่เครือข่ายสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ตลอดระยะเวลา 2 ปีจากนี้ โดยจะมีการลงพื้นที่ทั่วประเทศผ่านกิจกรรมต่างๆ เพราะเราต้องการข้อเสนอนโยบายสาธารณะ ภายใต้แนวคิดความเป็นธรรมด้านสุขภาพ โอกาสและความหวังอนาคตประเทศไทย เพราะหัวใจของการกำหนดนโยบายด้านสุขภาพของคนทั้งประเทศ ก็ต้องมาจากความต้องการของประชาชน" นายชาญเชาวน์ กล่าวตอนท้าย