
ส่องอนามัยสิ่งแวดล้อมโลก ปี 65 เด็กตายจาก 'มลภาวะในครัว' อื้อ 2 พันล้านคนดื่มน้ำปนเปื้อน 'อุจาระ' มีคนเพียง 26% ล้างมือหลังขับถ่าย4 กรกฎาคม 2565
อนามัยสิ่งแวดล้อมสัมพันธ์โดยตรงกับ “สุขภาพ” และ “สุขภาวะ” และภายใต้งาน “วันอนามัยสิ่งแวดล้อมไทย ปี 2565” เมื่อวันที่ 4 ก.ค. 2565 มีการเปิดเผย “สถิติ” ที่ชวนให้ทุกฝ่ายได้หันกลับมาครุ่นคิดกันอย่างจริงจัง
ข้อมูลดังกล่าว ถูกเปิดเผยโดย นพ.อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ที่ชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างสถานการณ์ด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมทั่วโลก กับการเกิดโรคที่สำคัญ 7 โรคใหญ่
1. โรคปอดอักเสบจากการติดเชื้อ
พบว่า 45% ของเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ที่เสียชีวิตด้วยโรคปอดอักเสบจากการติดเชื้อ มีสาเหตุจากการใช้เชื้อเพลิงแข็งในครัวเรือน และการใช้น้ำมันก๊าดคู่กับเตาประกอบอาหารที่ก่อมลพิษ
2. มลพิษทางอากาศ
พบว่า 1 ใน 8 ของผู้เสียชีวิตจากโรคไม่ติดต่อ มีสาเหตุการตายเนื่องจากมลพิษอากาศ
3. สารเคมี
พบว่า ในแต่ละปีมีผู้เสียชีวิตกว่า 1.6 ล้านคน โดยมีสาเหตุจากสารเคมีที่พบในอากาศ ในผลิตภัณฑ์อุปโภค บริโภค ในสถานที่ทำงาน ในน้ำหรือดิน และการเสียชีวิตเหล่านี้ ส่วนใหญ่เกิดจากการสัมผัสสารเคมีอย่างต่อเนื่อง
4. พฤติกรรมการล้างมือ
พบว่า มีประชากรเพียง 26% ที่ล้างมือหลังการขับถ่าย
5. ความเป็นเมือง
คาดว่า ในปี 2593 หรืออีกราวๆ 28 ปีข้างหน้า ประชากรประมาณ 70% ของประชากรทั่วโลก จะอาศัยอยู่ในเขตเมือง ซึ่งเป็นแหล่งรวมปัจจัยเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ
6. น้ำปนเปื้อน
พบว่า ประชากรมากกว่า 2,000 ล้านคน ดื่มน้ำที่ไม่สะอาดมีการปนเปื้อนอุจจาระ อหิวาตกโรค โดยมีการรายงานผู้ป่วยประมาณ 2.9 ล้านคน ในแต่ละปี
7. โรคท้องร่วง
พบว่าในแต่ละปี น้ำ การสุขาภิบาล และสุขอนามัยที่ไม่เพียงพอ เป็นสาเหตุให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 8.2 แสนคนจากโรคท้องร่วงที่สามารถป้องกันได้ และในจำนวนนี้เป็นเด็กอายุไม่เกิน 5 ปี ถึง 2.9 แสนคน
นพ.อรรถพล กล่าวว่า จากผลกระทบด้านสุขอนามัยของทั้งโลก พบว่ามีถึง 23% ของจำนวนผู้เสียชีวิตทั่วโลก ที่สามารถป้องกันได้ด้วยการสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีและเอื้อต่อสุขภาพ จึงเป็นความท้าทายที่สำคัญในการประสานพลังเครือข่ายทุกภาคส่วน เพื่อร่วมปกป้องโลก ปกป้องเรา สู่อนามัยสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนต่อไป
ด้าน ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข (สธ.) กล่าวในงาน “วันอนามัยสิ่งแวดล้อมไทย ปี 2565” ซึ่งจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ปกป้องโลก ปกป้องเรา ด้วยอนามัยสิ่งแวดล้อม : Only One Earth, Be Better Together” เมื่อวันที่ 4 ก.ค. 2565 ตอนหนึ่งว่า สธ. มุ่งให้ประชาชนทุกกลุ่มวัยมีสุขภาพดี ด้วยการจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุล ภายใต้สถานการณ์โลกที่มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เน้นการสร้างความตระหนักถึงความสำคัญในการจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัย และเอื้อต่อการมีสุขภาพดีของทุกคน
ทั้งนี้ สธ. ได้ปรับกระบวนการดำเนินงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ มีการจัดระบบบริการสุขภาพ การจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อม การสื่อสารประชาสัมพันธ์องค์ความรู้ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี และนวัตกรรมด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการจัดการสุขลักษณะกิจการต่างๆ ให้เกิดความปลอดภัย ด้วยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน และประชาชน เพื่อร่วมสร้างสุขภาพดี มีสมดุลชีวิต สิ่งแวดล้อมยั่งยืน สำหรับทุกคน