16 ภาคีเครือข่ายสงขลาตั้งวงถก สางปัญหา-อุปสรรคใหม่ในพื้นที่ น้ำ-อากาศ-สิ่งแวดล้อม-อาหาร เล็งปั้นนโยบายสาธารณะแก้ยั่งยืน

! Font Awesome Pro 6.0.0 by @fontawesome - https://fontawesome.com License - https://fontawesome.com/license (Commercial License) Copyright 2022 Fonticons, Inc.

16 ภาคีเครือข่ายสงขลา ตั้งวงถกปัญหาใหม่ในพื้นที่ ส่งผลกระทบกับทุกชีวิต ทั้งสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง-บุกรุกพื้นที่เกษตร กระทบความมั่นคงด้านอาหาร พร้อมจับมือลุยแสวงหาความร่วมมือ ดันมิติสิ่งแวดล้อม-สังคม-เศรษฐกิจ เดินหน้าควบคู่กัน 


เครือข่ายความร่วมมือการพัฒนานโยบายสาธารณะแบบมีส่วนร่วม .สงขลา จำนวน 16 เครือข่าย ร่วมประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และร่วมขับเคลื่อนวิสัยทัศน์สงขลา 2570 เศรษฐกิจสร้างสรรค์ สิ่งแวดล้อมยั่งยืน สังคมเป็นสุข เมื่อวันที่ 27 ..2565 ซึ่งเป็นเวทีการพูดคุยถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน รวมถึงการสะท้อนการทำงานของเครือข่ายภาคประชาชนในช่วงเวลาที่ผ่านมา


สำหรับเนื้อหาสำคัญได้มีการหยิบยกหลากหลายปัญหาที่เกิดขึ้น ที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของคนในพื้นที่ในเขตเมือง .สงขลา ซึ่งเป็นปัญหาใหม่ที่เกิดขึ้นและสังคมจะต้องรับรู้พร้อมกัน อาทิ การประเมินความเปราะบางของเมืองที่มีต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ปัญหาการเข้าไม่ถึงสิทธิ ข้อมูลหรือการทำแผนของกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบ ปัญหาการถมที่เปลี่ยนทางน้ำ การทำให้ระบบน้ำผิวดินเพื่อการเกษตรหายไปจากโครงการระบายน้ำท่วม เป็นต้น


นอกจากนี้ยังมีปัญหาการเป็นเมืองที่มีโรงงานคนต่างถิ่น ต่างชาติมาอยู่อาศัย แต่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของชุมชน และปัญหาการเป็นเมืองชายแดนที่มีรถบรรทุกรถส่งสินค้าจอดรถ สร้างมลภาวะให้กับโรงเรียนและเด็กเล็ก






ในขณะเดียวกันปัญหาที่ยังคงอยู่ในพื้นที่ที่สร้างผลกระทบต่อระบบนิเวศ มีทั้งประเด็นการบุกรุกของกลุ่มทุน การเปลี่ยนที่ดินเพื่อการเกษตรและความมั่นคงทางอาหาร มาเป็นโครงการที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่ ซึ่งในพื้นที่เขาคูหา หัวเขาแดง และจะนะ ภาคีเครือข่ายได้สะท้อนว่าจะทำให้เกิดปัญหาการใช้น้ำ การทำลายพื้นที่สีเขียว มลภาวะ และปัญหาทางสังคมควบคู่กับรายได้ทางเศรษฐกิจ


อย่างไรก็ตาม ภาคีเครือข่ายในเวทียังได้ร่วมกันสังเคราะห์ และแลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำงานที่ผ่านมาระหว่างกัน โดยเห็นตรงกันว่ารูปแบบการทำงานในภาคประชาชนลักษณะเครือข่ายร่วมกัน ทั้งเครือข่ายระดับตำบล และระดับจังหวัด นับเป็นพื้นฐานความเข้มแข็งที่จะต้องมองให้ครอบคลุมด้านสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ สังคมที่มีการเปลี่ยนแปลง และมีปัญหาใหม่ที่สร้างผลกระทบต่อพื้นที่ รวมไปถึงมองว่าการมีคณะกรรมการไตรภาคีจะเป็นกลไกลดความขัดแย้ง รวมถึงมีระบบรายงานสาธาณะที่มีประสิทธิภาพ เพื่อความโปร่งใสในการทำงาน


นอกจากนี้ ทั้ง 16 เครือข่ายความร่วมมือการพัฒนานโยบายสาธารณะแบบมีส่วนร่วม .สงขลา ยังได้สานความร่วมมือกับหน่วยงานอื่นๆ ในพื้นที่ .สงขลา รวม 4 ด้าน ประกอบด้วย 1. ความร่วมมือกับศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก สร้างช่องทางสื่อสาร เตือนภัย ส่งข่าว/ข้อมูล เพื่อลดความสูญเสียของกลุ่มเปราะบาง และพัฒนาการให้กลุ่มอาชีพต่างๆ เข้าถึงข้อมูล ลดผลกระทบต่ออาชีพ ทรัพย์สิน


2. ความร่วมมือระหว่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ศรีวิชัย กับเมืองปาดังเบซาร์ ประเทศมาเลเซีย ในการวัดคุณภาพอากาศ 3. ความร่วมมือชลประทาน/ประปา เพื่อสร้างเครือข่ายผู้ใช้น้ำ และทำแผนการใช้น้ำแบบมีส่วนร่วม 4. การสร้างตัวอย่างการแก้ปัญหากัดเซาะชายฝั่งโดยใช้มาตรการชั่วคราว




ในช่วงท้ายของวงพูดคุย ภาคีทั้ง 16 เครือข่ายยังได้เห็นร่วมกันว่า ควรกำหนดเป้าหมายและการวัดผลการทำงานในด้านนโยบายสาธารณะให้ชัดเจน เพื่อนำไปสู่เป้าหมายที่ยั่งยืนและสามารถส่งต่อให้กับคนรุ่นถัดไปได้


อนึ่ง เครือข่ายความร่วมมือการพัฒนานโยบายสาธารณะแบบมีส่วนร่วม .สงขลา จำนวน 16 เครือข่าย ประกอบไปด้วย 1. เทศบาลตำบลโคกม่วง 2. สมาคมพิทักษ์สิทธิเขาคูหา 3. มทร.ศรีวิชัย 4. โครงการประชาสังคมร่วมแรงเพื่อเปลี่ยนแปลงเมืองพะตง 5. โครงการประชาสังคมร่วมแรงเพื่อเปลี่ยนแปลงเมืองควนลัง 6. โครงการประชาสังคมร่วมแรงเพื่อเปลี่ยนแปลงเมืองบ่อยาง


7. ศูนย์ประสานงานพหุภาคีจังหวัด 8. เครือข่ายธรรมนูญตำบลน่าอยู่ตำบลแค 9. สถานีวิทยุ มอ.หาดใหญ่ 10. เครือข่ายอนุรักษ์และพัฒนาลุ่มน้ำรัตภูมี 11. โครงการประชาสังคมร่วมแรงเพื่อเปลี่ยนแปลงเมืองปาดังเบซาร์ 12. มูลนิธิชุมชนสงขลา 13. .ราชภัฏสงขลา 14. มูลนิธิอนุรักษ์ป่าต้นน้ำ 15. สวนไผ่คนเมืองคลองแห 16. มูลนิธิเครือข่ายเมืองภาคใต้เพื่อการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

 29 กรกฎาคม 2565