ภาครัฐ-วิชาการ-ท้องถิ่น "อุดรธานี" ร่วมจับมือลงนามแก้ไขปัญหา "โรคพยาธิใบไม้ตับ-มะเร็งท่อน้ำดี" ผนึกกำลังสร้างความรู้ ลุยตรวจคัดกรองประชาชน พร้อมพัฒนาระบบส่งต่อผู้ป่วย มุ่งสู่การเป็นพื้นที่ต้นแบบ

นายกองเอกปราโมทย์ ธัญญพืช รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) ระหว่าง สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี เทศบาลนครอุดรธานี สถาบันวิจัยมะเร็งท่อน้ำดี มหาวิทยาลัยขอนแก่น เมื่อวันที่ 13 ก.ย. 2565 ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี โดยมี นายณรงค์ พลละเอียด ประธานกรรมการเขตสุขภาพเพื่อประชาชน พื้นที่ 8 พร้อมด้วยหน่วยงานองค์กรต่างๆ ร่วมลงนามเป็นสักขีพยาน

สำหรับความร่วมมือทางวิชาการครั้งนี้ เกิดจากความตระหนักและต้องการแก้ไขปัญหา โรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดี ของหน่วยงานต่างๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในพื้นที่ จ.อุดรธานี และเขตสุขภาพที่ 8 โดยหวังก่อให้เกิดเครือข่ายพัฒนาความร่วมมือทั้งส่วนราชการ เอกชน และประชาชน สร้างแรงขับเคลื่อนในการแก้ไขปัญหาอย่างบูรณาการและยั่งยืน จนสามารถเป็นพื้นที่ต้นแบบได้

ทั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. สร้างการรับรู้และความตระหนักในโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดีในประชาชน 2. การสร้างความรอบรู้โรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดีในโรงเรียน 3. การดำเนินงานเกี่ยวกับอาหารปลอดพยาธิใบไม้ตับ 4. การตรวจคัดกรองพยาธิใบไม้ตับในประชาชนกลุ่มเสี่ยง 5. การคัดกรองมะเร็งท่อน้ำดีในประชาชนกลุ่มเสี่ยง 6. การพัฒนาระบบการจัดการสิ่งปฏิกูลอย่างยั่งยืน 7. การพัฒนาระบบส่งต่อเพื่อการรักษาผู้ป่วยมะเร็งท่อน้ำดีอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ กิจกรรมในวันดังกล่าวยังได้มีบริการตรวจคัดกรองพยาธิใบไม้ตับด้วยแอนติเจนในปัสสาวะ และบริการตรวจคัดกรองมะเร็งท่อน้ำดีด้วยอัลตราชาวด์ ให้แก่ประชาชน จ.อุดรธานี จำนวนกว่า 500 คน โดยถือเป็นการ Kick off การขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดีของ จ.อุดรธานี และเขตสุขภาพที่ 8 ภายใต้ความอนุเคราะห์แพทย์ พยาบาล ผู้เชี่ยวชาญ และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานจากหลายภาคส่วน ทั้งสถาบันวิจัยมะเร็งท่อน้ำดี ม.ขอนแก่น มูลนิธิมะเร็งท่อน้ำดี เทศบาลนครอุดรธานี อบจ.อุดรธานี ม.ราชภัฏอุดรธานี รวมกว่า 100 คน

อนึ่ง ประเด็นการกำจัดปัญหาพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดี เป็นมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ มติที่ 7.3 พ.ศ.2557 ซึ่งเกิดขึ้นด้วยความตระหนักว่า การจัดการปัญหาสุขภาพในเรื่องนี้ต้องมีการดำเนินการแบบบูรณาการ ครอบคลุมทั้งมิติเชิงพฤติกรรม สภาพแวดล้อม วัฒนธรรม รวมถึงการยกระดับพัฒนาระบบบริการสุขภาพควบคู่กันไป

ขณะเดียวกันยังมีความเคลื่อนไหวที่สำคัญของการขับเคลื่อนเรื่องนี้ในระดับพื้นที่ภาคอีสาน โดยคณะกรรมการเขตสุขภาพเพื่อประชาชน (กขป.) พื้นที่ 7-10 และภาคีเครือข่ายเห็นพ้องต้องกันที่จะขับเคลื่อนประเด็นนี้ให้เป็นวาระร่วมของคนภาคอีสาน

  แหล่งข่าว :  นายจักรรินทร์ สีมา
      ภาพข่าว  :  นายสรรเพชญ สงคราม