ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ชนหมัด ผู้ว่าฯ ปทุมธานี สานพลังทำงานร่วมกันเพิ่มคุณภาพชีวิตคนเมือง ร่วมแก้ปัญหา 4 ด้าน "น้ำ-ฝุ่น-จราจร-ผังเมือง" อย่างไร้รอยต่อ เล็งดึงผู้ว่าฯ ปริมณฑลหารือร่วมกันเดือนละครั้ง

เมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2565 นายชัชชาติ สิทธิ์พันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ประชุมหารือกับ นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ถึงความร่วมมือในการบริหารจัดการ 4 ด้านในเขตพื้นที่ กทม. และ จ.ปทุมธานี คือ 1. การจัดการน้ำ 2. การจัดการปัญหาฝุ่น PM2.5 3. การจราจร และ 4. บริหารจัดการผังเมือง

นายชัชชาติ เปิดเผยว่า การหารือนี้เป็นการหารืออย่างไม่เป็นทางการ เพื่อให้เป็นการประสานงานที่ไร้รอยต่อ เริ่มจากเรื่องการจัดการน้ำที่ จ.ปทุมธานี ได้วางแผนอย่างละเอียด และจากปัญหาที่เห็นหากมีการคุยกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมชลประทาน จะช่วยทำให้การจัดการน้ำได้ดี และสะดวกมากขึ้น 

ทั้งนี้ เนื่องจากกรมชลประทาน กำกับดูแลโดยคณะกรรมการลุ่มน้ำ หรือคณะกรรมการจังหวัด ซึ่งต้องการหารือกันในการปล่อยน้ำต่างๆ อย่างละเอียดมากขึ้น เชื่อว่าจะช่วยลดปัญหาในการแจ้งเตือนภัยกับประชาชนได้

นายชัชชาติ กล่าวอีกว่า ในขณะที่เรื่องฝุ่น PM2.5 ได้ขอคำแนะนำจาก นายณรงค์ศักดิ์ ที่มีประสบการจัดการฝุ่นในพื้นที่ จ.เชียงราย และ จ.ลำปาง มาก่อน ซึ่ง กทม. ยังมีปัญหาเรื่องฝุ่นละออง เช่น เขตหนองจอก รวมถึงเขตมีนบุรี ที่ยังทำการเกษตรและมีการเผาพืชผล หรือการเตรียมหน้าดินเพื่อเพาะปลูกผ่านการเผา ซึ่งอาจต้องใช้ไม้แข็งด้วยการปรับอย่างจริงจัง เพื่อให้เป็นตัวอย่างว่าทำไม่ได้ แต่สามารถส่งโรงผลิตไฟฟ้าชีวมวล เพื่อนำไปเผาอย่างถูกต้องได้

"ส่วนเรื่องการจราจรติดขัด ซึ่งมีจุดวิกฤต 2 จุด คือบริเวณอนุสรณ์สถาน และจุดเชื่อมต่อ ถ.นิมิตใหม่ และ ถ.ลำลูกกา คงต้องประสานกันในการควบคุมการจราจรและมีรถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่งสถานีอยู่ที่จ.ปทุมธานี โดย กทม. ช่วยดูแลทั้งคนปทุมธานีและคนกรุงเทพฯ" ผู้ว่าฯ กทม. กล่าว

นอกจากนี้ ยังมีเรื่องผังเมืองระหว่าง กทม. และ จ.ปทุมธานี ที่มีพื้นที่ติดต่อกัน ซึ่งได้ให้ทีมงานหารือกันเพื่อให้ผังเมืองมีความต่อเนื่อง เช่น สีของผังเมืองเป็นแบบเดียวกัน

"วันนี้เป็นนิมิตหมายที่ดีได้เดินทางมาเยี่ยมผู้ว่าฯ ปทุม และได้ความรู้หลายอย่างเพราะว่าเป็นผู้ว่าฯ น้องใหม่ จึงมาขอความรู้ อนาคตคงมีการประสานงานร่วมมือกันได้ละเอียดมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะทีมงานในระดับพื้นที่ในระดับปฏิบัติการ" ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว

ด้าน นายณรงค์ศักดิ์ ผู้ว่าฯ ปทุมธานี กล่าวว่า เรื่องน้ำได้มีความเป็นห่วงตรงกันคือเดือนตุลาคม เพราะเป็นช่วงที่น้ำทะเลจะหนุนสูงที่สุด และทุกปีโดยเฉลี่ยประเทศไทยจะมีพายุเข้าประมาณ 2 ลูก แต่ปีนี้ยังไม่เข้าเลยสักลูก ซึ่งเกรงว่าน้ำทะเลหนุนสูงในช่วงเดือนตุลาคม และหากพายุเข้า 1 หรือ 2 ลูกในเดือนนั้นก็จะเหนื่อยหนัก 

"เราจึงมีข้อตกลงกันว่าท่านผู้ว่าฯ ชัชชาติ จะรับเป็นเจ้าภาพในการพูดคุยกับจังหวัดข้างเคียงทั้งหมด ให้ไร้รอยต่อในการประสานงาน ในการดูแลการผันน้ำ การปล่อยน้ำการช่วยกันอย่างไรที่ไม่ให้กระทบกับใครคนใดคนหนึ่งเป็นพิเศษ โดยเราจะช่วยกันบริหารจัดการและเมื่อหัวคุยกันเรียบร้อย ลูกทีมสามารถคุยกันเองในระดับปฏิบัติได้ก็จะสามารถทำให้การทำงานสะดวกมากยิ่งขึ้น" นายณรงค์ศํกดิ์ กล่าว

ผู้ว่าฯ ปทุมธานี กล่าวอีกว่า เรื่องผังเมืองไร้รอยต่อคือในจุดเดียวกัน ผังเมืองปทุมธานีเป็นสีหนึ่ง แต่ กทม. เป็นอีกสีหนึ่งซึ่งไม่สอดคล้องกัน ซึ่งขณะนี้เองปทุมธานีก็กำลังปรับผังเมือง เพื่อรองรับนโยบายที่ประสานงานกันและปรับผังเมืองได้เป็นโซนต่อเนื่องกัน

ทั้งนี้ นายชัชชาติ และนายณรงค์ศักดิ์ สองผู้ว่าราชการ ยังได้เห็นร่วมกันว่าควรจะมีการพูดคุยระหว่างผู้ว่าฯ กทม. และผู้ว่าฯ ในจังหวัดปริมณฑล อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อร่วมบูรณาการในการจัดการปัญหาต่างๆ ร่วมกันอย่างไร้รอยต่อ