WHO กระตุ้นผู้นำประเทศทั่วโลก ใช้มาตรการแทรกแซงหยุด 'NCDs' เพิ่มพื้นที่สีเขียว ขึ้นภาษีเหล้า-บุหรี่ ชี้หลังโควิด 'โรคไม่ติดต่อ' น่าวิตก22 กันยายน 2565
องค์การอนามัยโลก จี้รัฐบาล-ผู้นำประเทศทั่วโลก ต้องเข้าไปแทรกแซงจัดการปัญหาโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง พร้อมให้ต้นแบบแก้ปัญหา "เพิ่มพื้นที่สีเขียว-ขึ้นภาษีเหล้าบุหรี่" ย้ำหากดำเนินการช้าจะมีผู้คนตายก่อนวัยอันควรกว่า 50 ล้านคนภายใน 8 ปี
ดร.ทีโดรส อัดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่แห่งองค์การอนามัยโลก (WHO) เรียกร้องให้ผู้นำประเทศทั่วโลก ต้องเร่งดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อจัดการกับโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) หลังจากตัวเลขผู้เสียชีวิตในปัจจุบันกำลังเป็นที่น่าวิตกไปทั้งโลก
สำหรับรายงานฉบับล่าสุดของ WHO สะท้อนว่า ปัจจุบันในทุก 2 วินาที จะมีคนอายุต่ำกว่า 70 ปีต้องเสียชีวิตจากโรค NCDs หรือคิดเป็น 17 ล้านคนต่อปี และส่วนใหญ่อีก 68% ของคนตายจะอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีรายได้ต่ำ-ปานกลาง
อย่างไรก็ตาม เป็นที่เข้าใจได้ว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตที่สูงเพิ่มขึ้นสำหรับโรค NCDs ในช่วงที่ผ่านมา เกิดจากการระบาดใหญ่ของไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้ภาระโรคไม่ติดต่อรุนแรงขึ้น เนื่องจากผลการล็อกดาวน์ และการแบ่งทรัพยากรที่ใช้ในการรักษา ทั้งบุคลากร อุปกรณ์การแพทย์ ไปดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 แทน
นอกจากนี้ ยังประกอบกับการหย่อนยาน การที่ผู้คนทั่วโลกมีความเข้าใจของพฤติกรรมการดูแลตัวเองในระดับต่ำ ละเลยการป้องกัน ส่งเสริมสุขภาพเพื่อไม่ให้เกิดโรค NCDs เช่น การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย การออกกำลังกาย และการหยุดดื่มสุรา หรือสูบบุหรี่
ทั้งนี้ เมื่อสถานการณ์โควิด-19 ในหลายประเทศดีขึ้น WHO จึงต้องการให้ผู้นำรัฐบาลเข้าไปแทรกแซง และจัดการปัญหาโรค NCDs พร้อมกับคาดการณ์ว่าหากไม่เร่งจัดการภายในปี 2573 จะมีคนต้องเสียชีวิตถึง 50 ล้านคน
พร้อมกันนี้ยังย้ำด้วยว่า การออกมาตรการต่างๆ แม้ว่าจะเป็นการดำเนินการที่เล็กน้อย หรือทำโครงการใหญ่เพื่อหยุดปัญหาโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ล้วนแล้วแต่จะมีผลดีต่อประชากรทั้งสิ้น ดังนั้น WHO จึงต้องการให้แต่ละประเทศดำเนินการโดยด่วน
สำหรับตัวอย่างที่ WHO ได้นำเสนอในรายงานฉบับนี้ อาทิ การเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้มากขึ้นสำหรับเขตเมือง ส่งเสริมกิจกรรมรณรงค์เกี่ยวกับโรค NCDs ที่มีทั้ง โรคหัวใจ ความดัน มะเร็ง เบาหวาน โรคปอด ฯลฯ หรือการเพิ่มภาษีบุหรี่ แอลกอฮอล์ สิ่งเหล่านี้จะเป็นการขับเคลื่อนที่รัฐบาลสามารถเข้าไปแทรกแซงเพื่อสุขภาพของประชาชนตัวเองได้
"แน่นอนว่าประเทศสมาชิกสหประชาชาติ มุ่งมั่นที่จะลดการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรจากโรค NCDs ลงให้ได้ 1 ใน 3 ก่อนปี 2573 แต่ปัจจุบันมีเพียงไม่กี่ประเทศที่พยายามจะบรรลุเป้าหมายดังกล่าว จึงจำเป็นต้องเกิดความพยายามระดับโลกอย่างเร่งด่วน เพื่อให้ทุกอย่างกลับสู่เส้นทางการพัฒนาที่ยั่งยืน และลดการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรจากโรค NCDs" ผู้อำนวยการใหญ่แห่งองค์การอนามัยโลก ตอกย้ำ
ที่มา: https://www.who.int/news/item/21-09-2022-heads-of-state-commit-to-noncommunicable-disease-global-compact-to-save-50-million-lives-by-2030