สธ.กางแผน 5 ข้อ ลุยงานปี 2566 เสริมสร้าง ‘ระบบสุขภาพ’ ระยะยาว เน้นคนไทย-สูงวัยเข้าถึงบริการสะดวก ดูแล ‘ข้อมูลสุขภาพ’ ของประชาชน
29 กันยายน 2565
! Font Awesome Pro 6.0.0 by @fontawesome - https://fontawesome.com License - https://fontawesome.com/license (Commercial License) Copyright 2022 Fonticons, Inc.

"อนุทิน" มุ่งปี'66 กางแผน 5 ประการผลักดันเสริมสร้างระบบสุขภาพระยะยาว หวังให้คนไทยเข้าถึงบริการสุขภาพได้มากขึ้น-สะดวก ผ่านระบบสุขภาพปฐมภูมิ เน้นดูแลผู้สูงวัยอย่างทั่วถึง ผลักดันสมุนไพรผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ พร้อมพัฒนาข้อมูลสุขภาพดิจิทัลเพื่อประชาชน 


นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข เป็นประธานเปิดการประชุมมอบนโยบายการดำเนินงานกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ประจำปีงบประมาณ 2566 พร้อมปาฐกถาพิเศษสุขภาพดี เศรษฐกิจมั่งคั่ง (Health for Wealth) รวมทั้งทำพิธี Kick off พลิกโฉมระบบสุขภาพเพื่อคนไทยทั้งประเทศ ผู้บริหาร สธ. เมื่อวันที่ 29 ..2565

 

นายอนุทิน เปิดเผยว่า ในปี 2566 สธ.จะผลักดันการพัฒนาสาธารณสุขไทย ด้วยการปรับระบบบริการสุขภาพที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง ผ่านการขับเคลื่อน 5 ประการสําคัญ คือ ประการแรก การทำให้ประชาชนเข้าถึงบริการสุขภาพได้มากขึ้น โดยเพิ่มความครอบคลุมการดูแลสุขภาพปฐมภูมิ ด้วยแนวทาง “3 หมอคนไทยทุกครอบครัวมีหมอประจําตัวดูแล เมื่อเจ็บป่วยได้รับการรักษาและส่งต่อ



 

ขณะเดียวกันยังจะเพิ่มสวัสดิการและพัฒนาศักยภาพอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ให้เป็นหมอประจำบ้าน เชื่อมโยงบริการแบบไร้รอยต่อตั้งแต่ปฐมภูมิ ทุติยภูมิ และตติยภูมิ ดูแลทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต ใช้การแพทย์ทางไกล (Telemedicine) ดูแลประชาชนที่บ้านและชุมชน ลดภาระค่าใช้จ่ายการเดินทางมาโรงพยาบาล

 

ประการที่ 2 ยกระดับการเสริมสร้างสุขภาพเพื่อคนไทยแข็งแรง โดยพัฒนาการสื่อสารเรื่องการดูแลสุขภาพให้ประชาชนเข้าถึงได้ง่าย ถูกต้อง ปลอดภัย ทันสมัย มีกิจกรรมและมาตรการสิทธิประโยชน์สร้างแรงจูงใจเพื่อให้ประชาชนดูแลตนเองให้แข็งแรงทั้งกายและใจ ป้องกันการบิดเบือนหรือสร้างความเข้าใจผิด ซึ่งจะส่งผลเสียต่อความมั่นคงทางสาธารณสุข

 

ประการที่ 3 ผู้สูงอายุต้องได้รับการดูแลอย่างเป็นระบบและทั่วถึง โดยจัดให้มีการคัดกรองสุขภาพ ประเมินความเสี่ยงของโรค การป้องกันปัญหาสุขภาพ การดูแลระยะยาว สนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิต เช่น แว่นสายตา ผ้าอ้อม ฟันปลอม และจัดตั้งคลินิกผู้สูงอายุในโรงพยาบาลทุกระดับให้เข้าถึงบริการได้สะดวกยิ่งขึ้น รวมถึงดูแลด้านจิตใจและภาวะสมองเสื่อม

 

ประการที่ 4 นำสุขภาพขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยส่งเสริมผลิตภัณฑ์และบริการสุขภาพ สมุนไพรไทย กัญชา กัญชง ภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ขยายโอกาสสู่การเป็นศูนย์กลางการบริการสุขภาพ (Health Hub) และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของประชาคมโลก ต่อยอดเศรษฐกิจเพิ่มรายได้แก่ประชาชนและประเทศ


ประการที่ 5 ข้อมูลสุขภาพต้องเป็นของประชาชนและเพื่อประชาชน โดยจะพัฒนาข้อมูลดิจิทัลสุขภาพที่ได้มาตรฐาน เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล เชื่อมโยงเป็นฐานข้อมูลขนาดใหญ่ของประเทศ ช่วยให้ประชาชนใช้บริการสาธารณสุขได้ทุกที่อย่างต่อเนื่อง และรัฐใช้ประโยชน์ในการพัฒนาระบบสาธารณสุขให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น



 

ไม่เพียงแต่ 5 นโยบายสำคัญนี้เท่านั้น แต่ประสบการณ์ที่ผ่านมาสอนให้รู้ว่า เราต้องมีความตื่นตัว ยืดหยุ่น และคิดนอกกรอบเสมอ เพราะการสาธารณสุขยุคปัจจุบันจะประสบความท้าทายใหม่ๆ ต้องอาศัยวิธีคิดใหม่ๆ ในการรับมือ เหมือนที่เราได้ทำมาจนประสบความสำเร็จ ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ และจะทำอย่างต่อเนื่องเพื่อให้กระทรวงสาธารณสุขไทย ดำรงสถานะผู้นำการพัฒนาสาธารณสุขในภูมิภาคและในโลกต่อไปนายอนุทิน กล่าว