‘เกาะหมาก-บ้านห้วยปูแกง-สาปยา’ 3 แหล่งท่องเที่ยวไทยติดอันดับโลก ได้รับยกย่องด้านการท่องเที่ยวยั่งยืน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม-ยกระดับชุมชน
18 ตุลาคม 2565
! Font Awesome Pro 6.0.0 by @fontawesome - https://fontawesome.com License - https://fontawesome.com/license (Commercial License) Copyright 2022 Fonticons, Inc.

เกาะหมาก-บ้านห้วยปูแกง-ชุมชนสาปยาถูกยกย่องเป็นแหล่งท่องเที่ยวยั่งยืน 100 แห่งของโลกประจำปี 65 ชูความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชนจากการท่องเที่ยว


แหล่งท่องเที่ยวของประเทศไทย 3 แห่ง คือ เกาะหมาก .ตราด, บ้านห้วยปูแกง .แม่ฮ่องสอน และวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวสาปยา .ชัยนาท ได้รับการประกาศให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวยั่งยืน 100 แห่งของโลก ประจำปี 2565 (Top 100 Destination Sustainability Stories 2022) จาก Green Destinations Foundation หน่วยงานที่ไม่แสวงหากำไรระดับโลก ที่ร่วมกับพันธมิตรด้านการท่องเที่ยวจากทั่วโลกจัดอันดับแหล่งท่องเที่ยวที่มีความยั่งยืน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

 

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ความสำเร็จของทั้ง 3 แหล่งท่องเที่ยวของไทยมาจากนโยบายของรัฐบาล ผ่านการทำงานขององค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) โดยเกาะหมาก .ตราด รัฐบาลได้พยายามผลักดันให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ หรือ Low Carbon Destination แห่งแรกของไทยมาอย่างต่อเนื่อง ผ่านการประสานความร่วมมือและการมีส่วนร่วมระหว่างชุมชนและหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวทั้งภาครัฐและเอกชน นำไปสู่การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและการวิจัยเรื่องการเพิ่มศักยภาพในการดูดซับและกักเก็บคาร์บอนผ่านธรรมชาติ

 

ขณะที่อีก 2 แหล่งท่องเที่ยว คือ บ้านห้วยปูแกง .แม่ฮ่องสอน และวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวสาปยา .ชัยนาท ให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวโดยชุมชน (Community Based Tourism) โดยมีการพัฒนาทักษะฝีมือให้แก่สมาชิกในชุมชนเรื่องการทำผลิตภัณฑ์เพื่อจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยว รวมถึงมีการส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีต่อนักท่องเที่ยว และยกระดับคุณภาพชีวิตของสมาชิกในชุมชน

 

ประเทศไทยต้องการผลักดันการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม รางวัลดังกล่าวจะช่วยให้นักท่องเที่ยวต่างชาติได้รู้จักกับจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ และใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม และยังทำให้เวทีระหว่างประเทศเห็นว่า ไทยให้ความสำคัญกับการคงความสมดุลแก่สิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นความท้าทายสำคัญที่ทั่วโลกกำลังเผชิญโฆษกประจำสำนักนายก กล่าว


สำหรับแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียนนอกจากประเทศไทยแล้ว ยังมีอีก 2 แห่งที่ได้รับการประกาศเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวเพื่อความยั่งยืนเช่นกัน คือ เกาะเซนโตซา ประเทศสิงคโปร์ และเมืองบาโก ประเทศฟิลิปปินส์