ครม.ไฟเขียว 4 มาตรการเร่งด่วน แก้ไขปัญหา ‘อาวุธปืน-ยาเสพติด’ ผู้ครอบครองต้องมีใบรับรองแพทย์ ดึงท้องถิ่น-ชุมชนร่วมดูแลสุขภาพจิต
19 ตุลาคม 2565
! Font Awesome Pro 6.0.0 by @fontawesome - https://fontawesome.com License - https://fontawesome.com/license (Commercial License) Copyright 2022 Fonticons, Inc.

ครม.เห็นชอบ 4 มาตรการเร่งด่วนแก้ไขปัญหาปืน-ยาเสพติด ทั้งป้องกันค้าปืนเถื่อน ขออนุญาตมีปืนต้องมีใบรับรองแพทย์ เร่งตั้งศูนย์ฟื้นฟูบำบัดผู้เสพยา พร้อมถึงท้องถิ่น-ชุมชนให้มีส่วนร่วมแก้ปัญหา 


ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 18 ..2565 ที่มี พล..ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีมติเห็นชอบมาตรการและกำหนดหน่วยงานรับผิดชอบหลักในการแก้ไขปัญหาอาวุธปืนและยาเสพติด โดยมีมาตรการระยะเร่งด่วนสำคัญ 4 มาตรการ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบและรวดเร็ว นําไปใช้ได้จริงในการสร้างความปลอดภัย ต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สิน รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ตลอดจนบูรณาการการทํางานร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

 

สำหรับ มาตรการเร่งด่วน 4 มาตรการ ประกอบด้วย 1. มาตรการเกี่ยวกับอาวุธปืน ได้แก่ 1) การอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน เช่น เพิ่มเติมเอกสารใบรับรองแพทย์ หนังสือรับรองจากต้นสังกัด/นายจ้าง 2)  การจัดการอาวุธปืนที่ไม่ได้รับอนุญาตหรือที่มีกฎหมายห้ามออกใบอนุญาต โดยผ่อนผันให้ผู้ครอบครองนําอาวุธปืนที่ไม่ได้รับอนุญาต/หรือที่มีกฎหมาย ห้ามออกใบอนุญาตมาส่งมอบให้แก่ภาครัฐหรือนํามาขึ้นทะเบียน 3) การป้องกันและปราบปรามในเชิงรุก เช่นตรวจจับการค้าอาวุธที่ไม่ได้รับอนุญาต 4) มาตรการทางดิจิทัล เช่น การป้องกันการค้าอาวุธปืนบนแพลตฟอร์มดิจิทัล

 

2. มาตรการด้านการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เช่น การควบคุมสารเคมีที่นำใช้ผลิตยาเสพติด  การทำลายเครือข่ายนักค้านาเสพติดและยึดทรัพย์  ติดตามจับกุมผู้มีหมายจับคดียาเสพติด  การค้นหาผู้ติดยาเสพติดทั่วประเทศ การติดตามข้อร้องเรียนประชาชน การทบทวนผู้เสพเป็นผู้ป่วย และการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว (EM)

 

3. มาตรการด้านการบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด  ประกอบด้วย  ระยะเร่งด่วน ค้นหาและคัดกรองผู้ป่วยจิตเวช  ระยะกลาง  เร่งรัดจัดตั้งสถานฟื้นฟูสมรรถภาพ  และระยะต่อเนื่อง โดยใช้ชุมชนเป็นฐานบำบัดยาเสพติด 4. มาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาสุขภาพจิต เช่น การพัฒนาเครือข่ายในและนอกระบบสุขภาพ และการพัฒนาเครือข่ายในชุมชน

 

ด้าน นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้ดำเนินการอย่างเร่งด่วนใน 3 เดือน ต้องตรวจสอบ ดำเนินการ ให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรมและเป็นไปตามกฏหมาย โดยหน่วยงานรับผิดชอบหลัก ต้องขับเคลื่อนมาตรการดังกล่าวไปสู่การปฏิบัติเพื่อสร้างความมั่นคงปลอดภัยให้กับชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สิน สามารถป้องกันเหตุที่จะเกิดขึ้นในอนาคตและสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน

 

เพื่อให้เกิดผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรมในระยะเร่งด่วน ต้องเน้นย้ำหน่วยงานในท้องถิ่นและประชาชนในพื้นที่ ให้มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาด้วยนายอนุชา กล่าว