ชง 'ตำบลเข้มแข็ง' เป็นวาระชาติ วุฒิสภาเสนอครม.หนุนส่วนราชการ บริหารจัดการในพื้นที่แบบ 'หุ้นส่วน' กำหนดตัวชี้วัด-จัด 'สมัชชาตำบล'3 พฤศจิกายน 2565
ครม.รับทราบผลการพิจารณา-รายงานการศึกษา "การจัดการตำบลเข้มแข็งฯ" ของ กมธ.แก้ปัญหาความยากจนฯ วุฒิสภา มุ่งสู่การสร้างเสริมตำบลเข้มแข็งอย่างจริงจังเป็นระบบ หนุนส่วนราชการเข้าใจแนวทาง-บริหารจัดการแบบหุ้นส่วนในระดับพื้นที่
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2565 ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้มีมติรับทราบสรุปผลการพิจารณาแนวทางและความเหมาะสมของรายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง “การจัดการตำบลเข้มแข็งตามแนวทางยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ” ของคณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (สำนักงาน ก.พ.ร.) เสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
สำหรับรายงานการพิจารณาศึกษาเรื่องดังกล่าว คณะกรรมาธิการฯ วุฒิสภา ได้มีข้อเสนอแนะใน 5 ประเด็นหลัก ประกอบด้วย 1. การดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ ควรกำหนดให้การขับเคลื่อนการพัฒนาที่มุ่งให้ “ตำบลเข้มแข็ง” เป็นวาระแห่งชาติ เพื่อส่งสัญญาณและระดมสรรพกำลังความร่วมมือของทุกภาคส่วน มุ่งสู่การสร้างเสริมตำบลเข้มแข็งอย่างจริงจังเป็นระบบ
ขณะเดียวกันควรกำหนดเป็นนโยบายเพื่อส่งเสริมให้ส่วนราชการต่างๆ ที่มีภารกิจเกี่ยวข้องกับการปฏิรูปและพัฒนาระบบบริหารราชการแผ่นดิน และเกี่ยวข้องกับภารกิจการพัฒนาเชิงพื้นที่ ทำความเข้าใจกับแนวคิดและแนวทางการบริหารจัดการแบบหุ้นส่วนในระดับพื้นที่ เพื่อพัฒนาระบบและวิธีการทำงานให้สอดคล้องกับระบบการจัดการตำบลเข้มแข็งในทิศทางนี้
2. บทบาทของราชการทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง ควรมอบหมายให้คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) กำหนดตัวชี้วัดร่วม “เชิงกระบวนการ” ของส่วนราชการต่างๆ ที่มีภารกิจเข้าไปทำงานในระดับตำบล เพื่อให้การทำงานของทุกส่วนราชการได้ให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมการพัฒระบบการจัดการตำบลเข้มแข็งแบบหุ้นส่วนอย่างเป็นรูปธรรมและต่อเนื่อง ไม่ต่างคนต่างทำเฉพาะตน
3. การสนับสนุนการพัฒนาระบบการบริหารราชการ ควรกำหนดให้คณะกรรมการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการ จัดให้มี “แผนงานโครงการและงบประมาณสนับสนุนการพัฒนาระบบการจัดการตำบลเข้มแข็งแบบหุ้นส่วน” ในระดับตำบลอย่างเป็นระบบและต่อเนื่องทุกปี 4. การจัดทำหลักสูตร ควรกำหนดนโยบายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำ “หลักสูตรการจัดการตำบลเข้มแข็ง” สำหรับผู้บริหารและผู้เกี่ยวข้อง ทั้งระดับประเทศ ภาค จังหวัด อำเภอ และตำบลอย่างกว้างขวางและทั่วถึง
5. การจัดให้มีสมัชชาตำบล ควรกำหนดนโยบายให้หน่วยงานหลักที่เหมาะสม จัดให้มี “สมัชชาตำบลเข้มแข็งแห่งชาติ” ทุกปี เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้บริหารและผู้เกี่ยวข้องในระดับพื้นที่ทั่วประเทศ ได้นำเสนอการพัฒนาตำบลเข้มแข็งการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันและกัน
อย่างไรก็ตาม สำนักงาน ก.พ.ร. ได้จัดประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) สำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย กรมการปกครอง กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กรมการพัฒนาชุมชน และสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) เพื่อพิจารณารายงานและข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ ดังกล่าว
ทั้งนี้ จากการประชุมหารือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เห็นด้วยในหลักการของรายงานการพิจาณาศึกษาฯ ดังกล่าว โดยมีข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะเพิ่มเติม อาทิ การที่ปัจจุบันรัฐบาลได้จัดตั้ง ศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (ศจพ.) เพื่อเป็นกลไกระดับชาติเชิงนโยบาย และยังได้จัดตั้ง ศจพ. ในระดับต่างๆ เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินการในระดับพื้นที่ โดย ศจพ. ทุกระดับอยู่แล้ว
ดังนั้น หากจะกำหนดประเด็น “ตำบลเข้มแข็ง” ให้เป็นวาระแห่งชาติ ควรเป็นการกำหนดให้เป็นวาระสำคัญ (Agenda) หรือประเด็นสำคัญ (Issue) เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและมีอำนาจหน้าที่ร่วมระดมกำลังในการแก้ไขปัญหาโดยจะต้องมีกระบวนการระดมความคิดเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างความชัดเจนในกระบวนการปฏิบัติเพื่อให้วาระแห่งชาติขับเคลื่อนได้อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป
ในส่วนของการจัดให้มี “สมัชชาตำบลเข้มแข็งแห่งชาติ” ทุกปี อาจใช้กลไกการประชุมสภาองค์กรชุมชนตำบลซึ่งจัดปีละ 1 ครั้ง เพื่อสรุปปัญหาที่เกิดขึ้นกับประชาชนในจังหวัด และข้อเสนอแนะแนวทางการแก้ไขเพื่อเสนอต่อ ครม. พิจารณาสั่งการ อย่างไรก็ตาม ควรพิจารณาถึงภารกิจและอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานที่ดำเนินการดังกล่าวด้วย