สมัชชาสุขภาพจังหวัดระยอง ร่อนแถลงการณ์ 6 ข้อ เสนอออก กม.ชดเชยค่าเสียหาย ทุกครั้งที่เกิดอุบัติภัยด้าน สวล.
8 กุมภาพันธ์ 2565
! Font Awesome Pro 6.0.0 by @fontawesome - https://fontawesome.com License - https://fontawesome.com/license (Commercial License) Copyright 2022 Fonticons, Inc.

เครือข่ายสมัชชาสุขภาพจังหวัดระยอง และมูลนิธิศูนย์ประสานงานชุมชน จ.ระยอง ร่วมกันออกแถลงการณ์กรณีน้ำมันรั่วลงสู่ท้องทะเล เสนอให้มีการออกกฎหมายชดใช้ค่าเสียหายทุกครั้งเมื่อเกิดอุบัติภัย

เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2565 เครือข่ายสมัชชาสุขภาพจังหวัดระยอง และมูลนิธิศูนย์ประสานงานชุมชน จ.ระยอง ร่วมกันออกแถลงการณ์กรณีน้ำมันรั่วลงสู่ท้องทะเลบริเวณมาบตาพุด อ.เมือง จ. ระยอง โดยมีสาระสำคัญคือ เครือข่ายสมัชชาสุขาพจังหวัดระยอง มูลนิธิศูนย์ประสานงาน จ.ระยอง ที่เป็นองค์กรภาคประชาชน-ประชาสังคม ที่รวมตัวกันมามากกว่า 10 ปี เน้นการทำงานเพื่อปกป้องรักษาผลประโยชน์ให้กับประชาชนใน จ.ระยอง ได้มีมติร่วมกันว่าต้องปกป้องด้านอาหารและทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อมให้เกิดความปลอดภัยและมั่นคง

เมื่อเกิดเหตุการณ์ต่างๆ การแก้ไขปัญหาก็จะตกอยู่ในมือของหน่วยงานรัฐที่เข้ามาจัดการเบ็ดเสร็จ โดยที่ผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงจากภาคประชาชน/ประชาสังคมถูกกันออกมาไม่ได้ให้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง จนทำให้เกิดความไม่มั่นใจ และไม่ไว้วางใจต่อหน่วยงานที่รับผิดชอบ โดยเฉพาะเรื่องความโปร่งใส และข้อเท็จจริงทั้งมวล แถลงการณ์ ระบุ

ทั้งนี้ เครือข่ายสมัชชาสุขภาพจังหวัดระยอง และมูลนิธิศูนย์ประสานงานชุมชน จ.ระยอง จึงออกแถลงการณ์โดยมีวัตถุประสงค์คือ 1. พี่น้องที่อาศัยอยู่ใน จ.ระยอง และนักท่องเที่ยวจะต้องได้รับความปลอดภัยจากการรับประทานอาหารและการดำรงชีวิตอยู่ในพื้นที่ 2. ต้องมีผู้ร่วมรับผิดชอบและดำเนินการ โดยมีการทำงานแบบมีส่วนร่วม ที่จะส่งผลให้ภาพลักษณ์ของ จ.ระยอง น่าอยู่

3. สภาอุตสาหกรรมและโรงงาน ต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบและให้มี CSR ในการตรวจสุขภาพของบุคคลที่อาศัยและเข้ามาอยู่ใน จ.ระยอง อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง 4. พี่น้องที่ทำมาหากินอยู่ใน จ.ระยอง จะต้องเกิดรายได้จากการประกอบอาชีพทุกส่วนด้วยความมั่นใจ

5. ให้มีการออกกฎหมายชดใช้ค่าเสียหายทุกครั้งเมื่อเกิดอุบัติภัย เพื่อให้เกิดเป็นกองทุนเยียวยา ทั้งต่อทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ สุขภาพ ของ จ.ระยอง 6. ให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการ 4 ฝ่าย อันได้แก่ ภาคประชาชน/ประชาสังคม วิชาการ รัฐ และอุตสาหกรรม เข้าร่วมในการแก้ปัญหาและการวางแผนทั้งระยะสั้นและระยะยาวเพื่อการแก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืน