ส่องสัญญาณ 'ปวดหัว-ไมเกรน' 'ระคายเคืองตา-ผื่นคันตามผิวหนัง' อาจเป็นเพราะ 'มลพิษในอาคาร' เตือนผลจากการใช้ชีวิตในห้องปิด
16 พฤศจิกายน 2565
! Font Awesome Pro 6.0.0 by @fontawesome - https://fontawesome.com License - https://fontawesome.com/license (Commercial License) Copyright 2022 Fonticons, Inc.

กรมอนามัย เผยผลการวิจัยพบอาคารกว่า 60% มีค่ามลพิษทางอากาศในอาคารเกินค่าแนะนำ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพทั้งระยะสั้น-ยาว เตือนประชาชนใช้ชีวิตภายในอาคารปิดมากกว่า 20 ชั่วโมงต่อวัน อาจเกิดการสะสมสารมลพิษได้


นพ.อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยในงานเสวนา เรื่องคุณภาพอากาศในอาคาร เรื่องที่คนไทยต้องรู้ และทิศทางการขับเคลื่อนคุณภาพอากาศในอาคารของประเทศไทยในการประชุม Healthy Air Forum 2022  เมื่อวันที่ 15 .. 2565 ตอนหนึ่งว่า ปัจจุบันมลพิษทางอากาศทั้งในอาคารและในบรรยากาศ เกิดจากการเติบโตของเมือง กิจกรรมการพัฒนาทางเศรษฐกิจ หรือการเผาในที่โล่ง ทำให้มลพิษทางอากาศเพิ่มขึ้น และส่งผลต่อคุณภาพทางอากาศในอาคารด้วย


ทั้งนี้ ประชาชนส่วนใหญ่จะใช้ชีวิตอยู่ภายในอาคารปิดมากกว่า 20 ชั่วโมงต่อวัน หากมีการจัดการอากาศในอาคารที่ไม่ดี อาจเกิดการสะสมสารมลพิษและก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพได้ โดยจากผลการสำรวจของกรมอนามัย ปี 2563 พบว่า ผู้ที่อยู่ในครัวเรือนมีอาการเจ็บป่วยที่เกี่ยวข้องกับมลพิษ

ทางอากาศในครัวเรือน ได้แก่ อาการปวดหัว ไมเกรน 20.5% ระคายเคืองตา 19.7% และผื่นคันตามผิวหนัง 18.8%




ขณะที่ผลการวิจัยอาคาร พบกว่า 60% อยู่ในอาคารที่มีค่ามลพิษทางอากาศในอาคารเกินค่าแนะนำ ส่งผลให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพทั้งอาการที่เกิดขึ้นในระยะสั้น ได้แก่ เวียนศีรษะ ง่วงนอน ระคายเคืองตา ผื่นคัน และอาจส่งผลต่อการเจ็บป่วยในระยะยาว


นพ.อรรถพล กล่าวว่า กรมอนามัยจึงได้ขับเคลื่อนการดำเนินงาน และส่งเสริมให้เกิดการจัดการคุณภาพอากาศในอาคารที่ดี และคุ้มครองสุขภาพประชาชน 2 มาตรการ คือ 1. มาตรการด้านนโยบายและมาตรฐาน โดยพัฒนาค่าเฝ้าระวังคุณภาพอากาศภายในอาคาร เพื่อเป็นหลักเกณฑ์ทางวิชาการในการเฝ้าระวัง กำกับดูแลคุณภาพอากาศภายในอาคาร และเป็นแนวทางให้เจ้าของอาคารใช้ประเมินเพื่อปรับปรุงคุณภาพอากาศภายในอาคารที่เหมาะสม


2. ผลักดันมาตรการในการจัดการคุณภาพอากาศในอาคาร เพื่อป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพ เช่น การจัดทำห้องปลอดฝุ่นซึ่งปัจจุบัน กรมอนามัยได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายขับเคลื่อนให้เกิดห้องปลอดฝุ่นในสถานบริการสาธารณสุขและศูนย์เด็กเล็กในพื้นที่ที่มีฝุ่นสูง เพื่อให้ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงได้อยู่ในอาคารที่มีอากาศสะอาด รวมทั้งให้คำแนะนำแก่ประชาชน แจ้งเตือนให้ทราบถึงความเสี่ยง ป้องกันและจัดการความเสี่ยงได้อย่างอย่างเหมาะสม