รายงานจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 21 พ.ย. 2565 ระบุถึงสถานการณ์วัณโรคในเด็กทั่วโลก พบว่าในปี 2564 มีเด็กที่อายุต่ำกว่า 5 ปี ถึง 1.2 ล้านคนป่วยด้วยวัณโรค และในจำนวนนี้มี 2 แสนคนต้องเสียชีวิต โดยสาเหตุพบว่ามาจากหลายปัจจัย ทั้งเรื่องถิ่นที่อยู่ ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำในแต่ละประเทศจากโควิด-19 และความไม่มั่นคงทางอาหาร ทั้งหมดเป็นปัจจัยที่บ่งชี้การระบาดในวงกว้างของวัณโรค ซึ่งผลกระทบมักจะตกอยู่กับผู้ที่มีสุขภาพอ่อนแอ และเด็กในวัยต่ำกว่า 5 ปี

ดร.เทเรซา คาซาเอวา ผู้อำนวยการ โครงการวัณโรค WHO กล่าวว่า การเข้าถึงการรักษาวัณโรคที่มีคุณภาพ และทันต่อสถานการณ์ของโรค เป็นสิทธิที่จำเป็นอย่างมากสำหรับเด็กทุกคนในโลกนี้ และยังเป็นความรับผิดชอบของผู้ใหญ่ที่ต้องเข้ามาจัดการปัญหานี้อย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งให้มีการจัดการบริการด้านสุขภาพที่เพียงพอให้กับเด็ก

"เด็กที่ได้รับวินิจฉัยได้เร็วว่าเป็นวัณโรค จะทำให้การรักษาได้ผลที่ดีมาก ดังนั้นมันเป็นความรับผิดชอบของพวกเรา ที่ต้องค้นหา วินิจฉัย และรักษา รวมถึงวัณโรคดื้อยาเช่นกัน และที่สำคัญที่สุดต้องทำให้มั่นใจได้ว่า การป้องกันวัณโรคในเด็กจะต้องเกิดขึ้นทุกพื้นที่ทั่วโลก เพราะเด็กทุกคนมีสิทธิ์ที่จะมีชีวิตและมีสุขภาพที่ดีอย่างเท่าเทียม" ดร.เทเรซา กล่าว

อย่างไรก็ตาม WHO ระบุด้วยว่า ขณะนี้กำลังดำเนินการอย่างใกล้ชิดกับประเทศต่างๆ เพื่อยุติวัณโรคในเด็ก โดยเฉพาะการเข้าไปส่งเสริม สนับสนุนให้เกิดการตระหนักรู้ในโรงเรียน รวมถึงยังได้สร้างเครือข่ายเยาวชนกว่า 3 หมื่นคนจากหลายประเทศทั่วโลก ทำกิจกรรมระดมพลัง และสร้างความตระหนักรู้ในการเข้ามามีส่วนร่วมยุติวัณโรคร่วมกันทั่วโลก โดย WHO ยกย่องพลังของเยาวชนและตั้งความหวังของการยุติวัณโรคจะเกิดขึ้นจริงได้ ด้วยเยาวชนในฐานะผู้สร้างการเปลี่ยนแปลง จะช่วยสร้างแนวทางแก้ไขที่ตอบสนองความต้องการ ซึ่ง WHO ต้องการพลังของเยาวชนที่มีความคิดสร้างสรรค์และแนวทางที่ต่างไปจากเดิม หากเราต้องการประสบความสำเร็จในการเอาชนะการต่อสู้กับวัณโรค

ที่มา: https://www.who.int/news/item/21-11-2022-equality-and-inclusion--for-every-child-affected-by-tb