ส่งเสริมความรู้พิษภัย 'บุหรี่ไฟฟ้า' รัฐบาลย้ำต้องลดนักสูบหน้าใหม่ เผยมีเด็กไทยเข้าใจจริงเพียง 9% ตัวแทนเยาวชนวอนเข้มสถานศึกษา
28 พฤศจิกายน 2565
! Font Awesome Pro 6.0.0 by @fontawesome - https://fontawesome.com License - https://fontawesome.com/license (Commercial License) Copyright 2022 Fonticons, Inc.

รองโฆษกสำนักนายกฯ เผยผลสำรวจเด็กไทยมีความรู้ความเข้าใจจริงต่อพิษภัย "บุหรี่ไฟฟ้า" เพียง 9% เดินหน้าสร้างองค์ความรู้ในโรงเรียนป้องกันนักสูบหน้าใหม่ ด้านเครือข่ายเยาวชน กทม. ย้ำทุกโรงเรียนต้องปลอดบุหรี่-บุหรี่ไฟฟ้าให้ได้


เมื่อวันที่ 28 .. 2565 ..ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า แนวโน้มความนิยมบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชน ซึ่งผลสำรวจทัศนคติของเด็กและเยาวชนไทยที่มีต่อบุหรี่ไฟฟ้าและสถานการณ์เด็กและเยาวชนไทย พบว่าเด็กและเยาวชนส่วนใหญ่ยังขาดความรู้ความเข้าใจ โดยมีเพียง 9% ของเด็กและเยาวชนที่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าในระดับสูง


ทั้งนี้ เนื่องจากการโฆษณาชวนเชื่อของสินค้าบนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ ที่สร้างวาทะกรรม บุหรี่ไฟฟ้ามีอันตรายน้อยกว่าบุหรี่ธรรมดา และจะช่วยให้ลดการสูบบุหรี่ลงได้ ซึ่งเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อน เนื่องจากบุหรี่ไฟฟ้ายังพบสารเสพติดคือ นิโคติน อีกทั้งยังมีโอกาสเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดโรคต่างๆ เพิ่มขึ้น เช่น โรคหัวใจ อีกด้วย


"โครงการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจตระหนักรู้ภัยบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าในเด็กและเยาวชน โดยเครือข่ายพัฒนาเยาวชนแห่งกรุงเทพมหานคร จึงมีความสำคัญและจำเป็นที่จะให้ความรู้ ความเข้าใจ แก่เด็กและเยาวชนและคนรุ่นใหม่ เกี่ยวกับพิษภัยของบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ห่างไกลจากบุหรี่ ป้องกันไม่ให้เกิดนักสูบหน้าใหม่ และเป็นจุดเริ่มต้นไปสู่สิ่งเสพติดอื่นๆ" ..ทิพานัน กล่าว


ด้าน นายณัฐกานต์ สังขดี ประธานที่ปรึกษาเครือข่ายพัฒนาเยาวชนแห่งกรุงเทพมหานคร (พยก.) กล่าวว่า ได้จัดกิจกรรมเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจตระหนักรู้ภัยบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าในเด็กและเยาวชนขึ้นในวันนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้ากับกลุ่มเด็กนักเรียน นักศึกษาจากสถาบันการศึกษาต่างๆ และบุคลากรทางการศึกษา


สำหรับปัจจุบันเด็กและเยาวชนในสถานศึกษาหลายแห่งได้รับข้อมูลที่ไม่รอบด้าน เช่น เชื่อว่าบุหรี่ไฟฟ้าอันตรายน้อยกว่า จึงไม่ก่อให้เกิดความอันตรายต่อสุขภาพ หรือแม้แต่บุหรี่ไฟฟ้าไม่มีสารนิโคติน ซึ่งความเชื่อเหล่านี้ล้วนเป็นการเร่งพฤติกรรมการสูบบุหรี่ไฟฟ้าของเด็กและเยาวชนให้เข้าถึงอย่างรวดเร็วและอายุของการเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้ามีแนวโน้มลดลง


ขณะเดียวกันยังมีการพัฒนาข้อเสนอต่อการแก้ไขปัญหาการสูบบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งมี 3 ข้อเสนอต่อคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบกรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย 1. ส่งเสริมให้มีการเรียนรู้เรื่องผลกระทบจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร 2. บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เช่น บังคับใช้เรื่องพื้นที่ห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะ รวมถึงการกวดขันการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า และ 3. ประกาศนโยบายให้ทุกสถานศึกษาเป็นสถานศึกษาปลอดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า