การจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบาย การขับเคลื่อนระบบการดูแลแบบประคับประคอง ผ่านระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า

! Font Awesome Pro 6.0.0 by @fontawesome - https://fontawesome.com License - https://fontawesome.com/license (Commercial License) Copyright 2022 Fonticons, Inc.


จากการที่สังคมไทยเป็นสังคมผู้สูงอายุ ประกอบกับมีผู้ป่วยที่ป่วยด้วยโรคเรื้อรัง รุนแรง และรักษาไม่หายเพิ่มมากขึ้น ทำให้คาดการณ์ได้ว่า ในอนาคตรูปแบบการดูแลผู้ป่วยที่อยู่ในวาระสุดท้ายของชีวิตและการดูแลแบบประคับประคองจะทวีความสำคัญมากขึ้นเรื่อย  

จากการเปรียบเทียบสิทธิการดูแลแบบประคับประคองในระบบหลักประกันสุขภาพที่รัฐจัดให้กับประชาชนไทย ทั้งกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กองทุนประกันสังคม และสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลของข้าราชการและครอบครัว พบว่า ชุดสิทธิการดูแลแบบประคับประคองมีความแตกต่างกันและเหลื่อมล้ำกันอย่างมาก

กล่าวคือ สวัสดิการค่ารักษาพยาบาลของข้าราชการ และสิทธิประกันสังคมเป็นรูปแบบการดูแลแบบประคับประคองเฉพาะในโรงพยาบาลเท่านั้น แต่สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเป็นรูปแบบการดูแลแบบประคับประคองทั้งในโรงพยาบาลในชุมชนและที่บ้าน

ดังนั้นสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จึงเป็นระบบหลักประกันสุขภาพที่รัฐจัดหาให้ที่มีสิทธิในการดูแลแบบประคับประคองดีที่สุด

อาจสรุปได้ว่า สิทธิในการดูแลแบบประคับประคองของทั้ง 3 กองทุน มีความเหลื่อมล้ำกันมาก ดังนั้นเมื่อสถานการณ์ในเรื่องสิทธิการดูแลเป็นเช่นนี้จึงเป็นที่มาของความจำเป็นในการสร้างระบบการดูแลแบบประคับประคองในภาคเอกชนผ่านระบบประกันสุขภาพภาคสมัครใจขึ้น ทั้งนี้เพื่อให้เป็นการอุดช่องว่างสิทธิการรักษาของภาครัฐ และเป็นทางเลือกกับผู้ป่วยในการวางแผนการดูแลตนเองและครอบครัว

ในต่างประเทศมีการจัดทำกรมธรรม์สุขภาพการดูแลแบบประคับประคองเพื่อเป็นทางเลือกแก่ประชาชนที่ต้องการรูปแบบการดูแลแบบประคับประคองที่นอกเหนือจากการดูแลที่รัฐจัดหาให้ โดยหลักการคือ จะต้องมีการทำหนังสือแสดงเจตนาไม่ประสงค์จะรับบริการสาธารณสุขเป็นองค์ประกอบหนึ่งของกรมธรรม์

ทั้งนี้เพื่อจะแจ้งถึงแนวทางในการเลือกการรักษาพยาบาลที่ตนเองต้องการและไม่ต้องการ รวมทั้งกำหนดผู้ทำหน้าที่ตัดสินใจแทนตนเองในกรณีที่ตนเองไม่สามารถตัดสินใจได้แล้ว นอกจากนั้นยังมีการจัดทำแผนการดูแลล่วงหน้าสำหรับผู้ป่วยและครอบครัวในแต่ละช่วงเวลาเพื่อเลือกแนวทางในการรักษาที่เหมาะสมให้แก่ผู้ป่วยและครอบครัว

ที่ผ่านมาในประเทศไทยมีการขายกรมธรรม์ที่เป็นกรมธรรม์การดูแลแบบประคับประคองแล้ว โดยการนำกรมธรรม์สุขภาพมาประยุกต์ขายเป็นกรมธรรม์แบบการดูแลแบบประคับประคอง แต่รูปแบบของกรมธรรม์ยังไม่มีส่วนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการทำหนังสือแสดงเจตนาไม่ประสงค์จะรับบริการสาธารณสุขและยังไม่มีการกำหนดผู้ทำหน้าที่ตัดสินใจแทนผู้ป่วยในกรณีที่ผู้ป่วยไม่สามารถตัดสินใจได้แล้ว ยังไม่มีการทำแผนการดูแลล่วงหน้าทั้งการดูแลที่บ้านและการดูแลที่โรงพยาบาลตามที่ผู้ป่วยและครอบครัวต้องการ ดังนั้นจึงควรมีการพัฒนากรมธรรม์การดูแลแบบประคับประคองเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล รวมทั้งเหมาะสมกับบริบทของระบบบริการสุขภาพของประเทศไทยต่อไป

จากความสำคัญที่กล่าวมาข้างต้น สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) จึงร่วมกับ บริษัท ชีวามิตร วิสาหกิจเพื่อสังคม จึงดำเนินการศึกษา วิเคราะห์ วิจัย พัฒนาองค์ความรู้ในเรื่องกรมธรรม์การดูแลแบบประคับประคองขึ้น เพื่อจัดกระบวนการจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เพื่สนับสนุนและส่งเสริมให้เกิดการพัฒนากรรมธรรม์การดูแลแบบประคับประคอง เพื่อให้ประชาชนที่สนใจในเรื่องการดูแลแบบประคับประคองสามารถวางแผนการดูแลตนเองในช่วงวาระสุดท้ายของชีวิตตนเองได้ 

หมายเหตุ: เผยแพร่ครั้งแรกในนิตยสาร "สานพลัง" ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ 2566
เรื่อง : พิสิษฐ์ ศรีอัคคโภคิน

 28 กุมภาพันธ์ 2566