กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระตุ้นเตือน รณรงค์สุขบัญญัติ “บุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า ไม่สูบ ไม่เสี่ยง” สร้างเครือข่ายเฝ้าระวัง สื่อสาร เตือนภัย ให้เด็ก-เยาวชน-ประชาชนมีความตระหนักรู้ ตื่นตัวอันตรายจากบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า ป้องกันไม่ให้เกิดนักสูบหน้าใหม่

เมื่อวันที่ 26 พ.ค. 2566 นพ.สุระ วิเศษศักดิ์  อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) เป็นประธานเปิดงานกิจกรรมรณรงค์สุขบัญญัติแห่งชาติ ปี 2566 “บุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า ไม่สูบ ไม่เสี่ยง” โดยมีผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย สภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ศูนย์สนับสนุนบริการสุขภาพ ชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) แห่งประเทศไทย แกนนำยุว อสม. และภาคีเครือข่าย เข้าร่วมกิจกรรม

นพ.สุระ เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบนโยบายสุขบัญญัติแห่งชาติ เมื่อวันที่ 28 พ.ค. 2539 เพื่อยกระดับกระตุ้นเตือนให้ประชาชนคนไทยทุกคน ได้รับการปลูกฝังและสร้างเสริมพฤติกรรมสุขภาพที่ถูกต้องตั้งแต่เยาว์วัยและทุกช่วงชีวิต ด้วยการปฏิบัติตนอย่างสม่ำเสมอจนเป็นสุขนิสัย เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีทุกกลุ่มวัย ตามหลักสุขบัญญัติแห่งชาติ 10 ประการ

ทั้งนี้ ในปี 2566 สบส. ร่วมกับภาคีเครือข่าย ได้ข้อสรุปร่วมกันในการกำหนดให้มีการสื่อสารรณรงค์พฤติกรรมตามสุขบัญญัติแห่งชาติ ข้อที่ 5 งดสูบบุหรี่ สุรา สารเสพติด การพนัน และการสำส่อนทางเพศ โดยใช้ประเด็นสื่อสารหลักคือ “บุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า ไม่สูบ ไม่เสี่ยง” เพื่อเป็นการสื่อสารให้เด็ก เยาวชน และประชาชน มีความตระหนักรู้และตื่นตัวถึงอันตรายจากบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า และร่วมมือในการเฝ้าระวังสื่อสารเตือนภัย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดนักสูบหน้าใหม่

ขณะเดียวกัน ข้อมูลการเฝ้าระวังพฤติกรรมการสูบบุหรี่ของเยาวชนไทย โดยกองสุขศึกษา ซึ่งดำเนินการระหว่างวันที่ 21 เม.ย. – 22 พ.ค. 2566 กลุ่มตัวอย่างจำนวน 17,767 คน จากทุกภูมิภาค พบว่าเยาวชน สูบบุหรี่มวน 11.5% สูบบุหรี่ไฟฟ้า 8.3% และสูบบุหรี่ทั้ง 2 ชนิด 4.3%

ด้าน นพ.สามารถ ถิระศักดิ์ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดกิจกรรมรณรงค์สุขบัญญัติแห่งชาติ ปี 2566 ได้มีการประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันโดยรณรงค์ตามแนวทางสุขบัญญัติแห่งชาติ “เครือข่ายร่วมใจ เตือนภัย บุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า ไม่สูบ ไม่เสี่ยง” จากเครือข่ายในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ทำให้เกิดเครือข่ายเฝ้าระวัง สื่อสารเตือนภัย “บุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า ไม่สูบ ไม่เสี่ยง”

"ในกลุ่มเด็ก เยาวชน เช่น แกนนำยุว อสม. และ อสม. ซึ่งเป็นแกนนำสุขภาพในชุมชน จะร่วมสร้างเครือข่ายเฝ้าระวัง สื่อสาร เตือนภัย อันตรายจากการสูบบุหรี่ และบุหรี่ไฟฟ้า ร่วมกันในการขับเคลื่อนให้เยาวชนลดการสูบบุหรี่ และคาดว่าจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดนักสูบหน้าใหม่ได้" นพ.สามารถ ระบุ