‘เครือข่ายผู้ป่วยไต’ ทำข้อเสนอเชิงนโยบาย ยื่นตรงต่อผู้บริหาร 3 กองทุนสุขภาพ พัฒนาการดูแลไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย
20 มิถุนายน 2566
! Font Awesome Pro 6.0.0 by @fontawesome - https://fontawesome.com License - https://fontawesome.com/license (Commercial License) Copyright 2022 Fonticons, Inc.

สมาคมเพื่อนโรคไตแห่งประเทศไทย ยื่นข้อเสนอเชิงนโยบายเกี่ยวกับการพัฒนาคุณภาพการดูแลผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายแก่ 3 กองทุนสุขภาพ


นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ปาฐกถาพิเศษหัวข้อการมีส่วนร่วมของผู้ป่วยโรคไตกับระบบสุขภาพภายใต้เวทีเชื่อมร้อยสานพลังภาคีเครือข่ายเพื่อนโรคไตทั่วประเทศเมื่อวันที่ 11 มิ.. 2566 ซึ่งจัดโดยสมาคมเพื่อนโรคไตแห่งประเทศไทย เพื่อระดมความคิดเห็นจากสมาชิก จัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายในการพัฒนาบริการเกี่ยวกับการดูแลผู้ป่วยโรคไต พร้อมทั้งมอบข้อเสนอดังกล่าวแก่ตัวแทนกองทุนสุขภาพทั้ง 3 กองทุน อันประกอบด้วย สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) สำนักงานประกันสังคม (สปส.) และกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง

 

สำหรับเวทีดังกล่าว ภาคีเครือข่ายด้านไตได้ร่วมกันร่อนตะแกรง-ตกผลึกความคิด จนได้ข้อสรุปออกมาเป็นข้อเสนอ 3 กลุ่ม ได้แก่



 

ข้อเสนอระดับประเทศ

 

ข้อเสนอระดับประเทศ มีทั้งหมด 13 ข้อ ประกอบด้วย 1. รวม 3 กองทุนสุขภาพเป็นกองทุนเดียว ลดความเหลื่อมล้ำสร้างความเป็นธรรม  2. เสนอกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้มีแพทย์ประจำทุก รพ.สต. สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ครอบคลุมทุกพื้นที่ 3. ให้กองทุนสุขภาพท้องถิ่นกำหนดเป้าหมายลดโรค NCDs โดยบรรจุโครงการ NCDs ในแผนของกองทุนทุกปี 4. ให้ สธ. ร่วมกับกระทรวงมหาดไทยสนับสนุนเครื่องวัดความเค็ม (Salt meter)  ให้ทุกหมู่บ้าน อย่างน้อยหมู่บ้านละ 2 เครื่อง โดยมี รพ.สต.เป็นผู้กำกับดูแล 5. เพิ่มสิทธิประโยชน์การคัดกรองไตในกลุ่ม อายุ 15 ปีขึ้นไปในระดับประเทศ 6. ให้ สธ. ควบคุมผลิตภัณฑ์ที่มีโซเดียมสูงและกำหนดฉลากที่เป็นมิตรต่อผู้บริโภค 

 

7. ให้มีการกำกับดูแลคุณภาพบริการหน่วยฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม (HD) โดยหน่วยบริการทุกแห่งที่ขึ้นทะเบียนกับ สปสช. ต้องผ่านเกณฑ์มาตรฐานที่ สธ. กำหนด ทั้งโรงพยาบาลรัฐและเอกชน  มีการกำกับหน่วยบริการให้ฟอกไตต้องครบ 4 ชม./ครั้ง และกำกับดูแลระบบน้ำบริสุทธิต้องได้มาตรฐานตามที่กำหนด 8. สนับสนุนงบประมาณในการสร้างแกนนำด้านส่งเสริมสุขภาพ และขยายเครือข่ายด้านส่งเสริมสุขภาพให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ 9. จัดให้มีชุดตรวจคัดกรองโรคไตเบื้องต้นทุก รพ.สต. 10. สนับสนุน สร้างความรู้ และประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนเกิดความเข้าใจเกี่ยวกับการบริจาคอวัยวะเพื่อสนับสนุนให้ประชาชนบริจาคอวัยวะ 

 

11. จัดให้มีศูนย์ Contact Center ครอบคลุมทุกพื้นที่ เพื่อให้ความรู้ ให้คำปรึกษา และสร้างองค์ความรู้ให้กับประชาชน 12. ให้ออกแบบโปรแกรมเพื่อให้ง่ายต่อการปฏิบัติการไม่เป็นภาระงานของบุคคลากรทางการแพทย์ เช่น ทำเส้น DNISS กับ TRT ไม่ให้ซ้ำซ้อน และ 13. บูรณาการด้านการทำเส้นใน 3 กองทุนให้มีสิทธิประโยชน์ที่เท่าเทียมกัน



 

ข้อเสนอต่อสำนักงานประกันสังคม

 

ข้อเสนอต่อ สปส. มีทั้งหมด 13 ข้อ ประกอบด้วย 1. รวม 3 กองทุนสุขภาพเป็นกองทุนเดียว ลดความเหลื่อมล้ำสร้างความเป็นธรรม 2. เพิ่มสิทธิประโยชน์การคัดกรองไตในกลุ่มอายุ 15 ปีขึ้นไปในระดับประเทศ 3. ให้มีการกำกับดูแลคุณภาพบริการหน่วยฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม (HD) โดยหน่วยบริการทุกแห่งที่ขึ้นทะเบียนกับ สปส. ต้องผ่านเกณฑ์มาตรฐานที่ สธ. กำหนด ทั้งโรงพยาบาลรัฐและเอกชน  มีการกำกับหน่วยบริการให้ฟอกไตต้องครบ 4 ชม./ครั้ง และกำกับดูแลระบบน้ำบริสุทธิต้องได้มาตรฐานตามที่กำหนด 4. ขอให้ยกเลิกสำรองเงินจ่ายค่าบริการล่วงหน้า เช่น ค่าทำเส้นเลือด/ซ่อมเส้นเลือด/อื่นๆ 5. ขอให้ควบคุมหน่วยบริการที่เก็บเงินค่าบริการบำบัดทดแทนไตเกินอัตราที่กำหนด 6. ขอให้มีหน่วยบริการล้างไตทางช่องท้องไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ และขอให้ทาง สปส. จัดบริการส่งน้ำยาล้างไตทางช่องท้องให้ถึงบ้านผู้ป่วยเหมือนกับระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ

 

7. ขอให้แก้ไขเรื่องการพิจารณาสิทธิภายใน 7 วัน เพื่อไม่เกิดปัญหาล่าช้าทำให้ผู้ป่วยได้รับผลกระทบกับการเข้าถึงบริการ 8. ให้พิจารณาการล้างไตทางช่องท้องด้วยเครื่องอัตโนมัติ APD แบบเร่งด่วน 9. ควรเพิ่มวงเงินในการทำเส้นฟอกเลือดของผู้ป่วยโรคไต และในกรณีฟอกฉุกเฉินที่เกิน 4,500 บาท/สัปดาห์ควรเบิกจ่ายได้เพิ่ม 10. เพิ่มวงเงินในการทำฟันของผู้ป่วยโรคไตจาก 900 บาท ให้มากขึ้นและเหมาะสม 11. เพิ่มสิทธิการฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบบี ฟรีโดยไม่ใค่าใช้จ่าย 12. บูรณาการด้านการทำเส้นใน 3 กองทุนให้มีสิทธิประโยชน์ที่เท่าเทียมกัน และ 13. สนับสนุน สร้างความรู้ และประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนเกิดความเข้าใจเกี่ยวกับการบริจาคอวัยวะ เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนบริจาคอวัยวะ



ข้อเสนอต่อกรมบัญชีกลาง

 

ข้อเสนอต่อกรมบัญชีกลาง มีทั้งหมด 11 ข้อ ประกอบด้วย 1. รวม 3 กองทุนสุขภาพเป็นกองทุนเดียว ลดความเหลื่อมล้ำสร้างความเป็นธรรม 2. ให้มีการกำกับดูแลคุณภาพบริการหน่วยฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม (HD) โดยหน่วยบริการทุกแห่งที่ขึ้นทะเบียนกับ สปส. ต้องผ่านเกณฑ์มาตรฐานที่ สธ. กำหนด ทั้งโรงพยาบาลรัฐและเอกชน  มีการกำกับหน่วยบริการให้ฟอกไตต้องครบ 4 ชม./ครั้ง และกำกับดูแลระบบน้ำบริสุทธิต้องได้มาตรฐานตามที่กำหนด 3. ให้ผู้ป่วยโรคไตที่ฟอกเลือดสามารถเข้ารับบริการบำบัดทดแทนไตได้ทุกหน่วยบริการ ไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในส่วนของเวชภัณฑ์ 4. ให้มีหน่วยฟอกไตด้วยเครื่องไตเทียมสำหรับผู้ป่วยที่มีโรคร่วม HIV ให้ครอบคลุมอย่างน้อย 1 หน่วยต่อจังหวัด 5. ให้เพิ่มสิทธิของผู้ป่วยโรคแพ้ภูมิตัวเอง หรือ SLE อยู่ในกลุ่มโรคเรื้อรัง 608

 

6. บรรจุเวชสำอางที่ใช้กับกลุ่มผู้ป่วยโรคแพ้ภูมิตัวเอง หรือ SLE ให้บรรจุอยู่ในบัญชียาที่มีความจำเป็นต่อโรค 7. ไม่คิดค่าใช้จ่ายกรณีซ่อมเส้น 8. บูรณาการด้านการทำเส้นใน 3 กองทุนให้มีสิทธิประโยชน์ที่เท่าเทียมกัน 9. เพิ่มสิทธิการฟอกไตให้สามารถฟอกได้ทุกหน่วยบริการ 10. สนับสนุน สร้างความรู้ และประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนเกิดความเข้าใจเกี่ยวกับการบริจาคอวัยวะ เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนบริจาคอวัยวะ และ 11. ให้มีแพทย์ลงพื้นที่ติดตามอาการผู้ป่วยโรคไต สัปดาห์ละ 2 ครั้ง

 

ข้อเสนอต่อ สปสช.

 

แบ่งเป็นระดับพื้นที่และระดับประเทศ ในส่วนของระดับพื้นที่มี 6 ข้อ ประกอบด้วย 1. ให้กองทุนสุขภาพท้องถิ่นกำหนดเป้าหมายลดโรค NCDs โดยบรรจุโครงการ NCDs ในแผนของกองทุนทุกปี 2. ให้มีแพทย์ประจำทุกโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) สัปดาห์ละ 1 ครั้ง  3. เพิ่มสิทธิประโยชน์การคัดกรองไตในกลุ่มอายุ 15 ปีขึ้นไปในระดับพื้นที่  4. ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) กำหนดแผนพัฒนาศักยภาพแกนนำในพื้นที่ด้านการให้ความรู้แบบองค์รวม 5. เพิ่มหน่วยบริการที่สามารถจัดบริการทำเส้นเพื่อฟอกไตเพิ่มขึ้น และ 6. ให้ สปสช. ลงพื้นที่ตรวจสอบหน่วยบริการ โดยไม่แจ้งล่วงหน้า

 

อนึ่ง ผู้ที่มารับมอบข้อเสนอเชิงนโยบาย ประกอบด้วย 1. ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สปสช. 2. ..ปาริฉัตร จันทร์อำไพ ผู้อำนวยการสำนักจัดระบบบริการทางการแพทย์ สปส. 3. นายรัชตะ อุ่นสุข ผู้อำนวยการกลุ่มงานกฎหมายด้านสวัสดิการรักษาพยาบาล กรมบัญชีกลาง