หว่านเมล็ดพันธุ์ ‘3 เขตสุขภาพ’ ฟูมฟักความเข้าใจ ‘สิทธิตายดี’ สช. คิกออฟ workshop 3 เวที เตรียมพร้อมเมื่อวาระสุดท้ายมาถึง
29 มิถุนายน 2566
! Font Awesome Pro 6.0.0 by @fontawesome - https://fontawesome.com License - https://fontawesome.com/license (Commercial License) Copyright 2022 Fonticons, Inc.

สร้าง ความเข้าใจ ในพื้นที่ นำไปสู่ ความยั่งยืนในการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะ

 

นี่คือหมุดหมายสำคัญของ สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) ที่ต้องการ สานพลัง ภาคีเครือข่าย เพื่อสร้างการรับรู้ ที่จะนำไปสู่ความเข้าใจ และความยั่งยืนในท้ายที่สุด

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นเรื่อง สิทธิซึ่งเกี่ยวโยงและสัมพันธ์กับสมาชิกทุกคนในสังคม

 

ในที่นี้เราขอพูดถึง สิทธิการตาย หรือสิทธิที่จะกำหนดวาระสุดท้ายของชีวิตด้วยตัวของตัวเอง ซึ่งประเทศไทยได้บัญญัติเอาไว้ใน มาตรา 12 แห่ง ... สุขภาพแห่งชาติ .. 2550

 

บุคคลมีสิทธิทําหนังสือแสดงเจตนาไม่ประสงค์จะรับบริการสาธารณสุขที่เป็นไปเพียงเพื่อยืดการตายในวาระสุดท้ายของชีวิตตน หรือเพื่อยุติการทรมานจากการเจ็บป่วยได้

 

พูดให้ชัดก็คือมีการกำหนดเงื่อนไขเอาไว้ว่า จะต้อง 1. ต้องป่วยในวาระสุดท้ายของชีวิต และ 2. ต้องเป็นการรักษาที่เป็นไปเพื่อยืดการตายเท่านั้น 

 

หากองค์ประกอบครบถ้วน ก็สามารถที่จะเลือกปฏิเสธการรักษาได้

 

สำหรับการขับเคลื่อนเรื่องสิทธิตามมาตรา 12 ปัจจุบันมีผู้รับรู้กว้างขวางขึ้น พบจำนวนการทำหนังสือแสดงเจตนาการดูแลตนเองในระยะท้าย หรือ Living will เพิ่มขึ้น

 

อย่างไรก็ดี สช. ยังคงเดินหน้าให้ความรู้-รณรงค์ เรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดเตรียมสานพลังกับหน่วยบริการสาธารณสุข และสำนักงานเขตสุขภาพ จำนวน 3 เขต ได้แก่ เขต 4, เขต 7 และ เขต 12 จัดเวทีใหญ่ 3 เวที ในเดือน .. 2566 นี้

 

เวทีดังกล่าวจะพุ่งเป้าไปยังกลุ่มเป้าหมายคือภาคประชาชน-ประชาสังคมที่จะเข้ามาร่วมเสวนาและประชุมเชิงปฏิบัติการ หัวข้อ 'สร้างเสริมสุขภาวะระยะสุดท้ายของชีวิต สร้างสุขที่ปลายทาง' ซึ่ง สช. จะจัดขึ้นทั้งหมด 3 เวที ในพื้นที่ 3 เขตสุขภาพ ในเดือนก.. 2566 นี้ 

 

สาเหตุที่ สช. มุ่งเป้าไปยังภาคประชาชน เนื่องจากในปี 2564 ได้มีการจัดกระบวนการโดยเน้นที่บุคลากรทางการแพทย์มาแล้ว ขณะที่ปี 2565 ก็ได้ลงลึกไปถึงบุคลากรแพทย์ที่ดูแลผู้ป่วยประคับประคอง และดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย 

 

ภาคส่วนผู้ให้บริการจึงมีทัศนคติและความเข้าใจที่ดีขึ้น ในปีนี้ 2566 จึงขยับมาที่ภาคประชาชนเป็นหลัก

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จะได้เรียนรู้เชิงปฏิบัติ เกี่ยวกับวิธีการ แนวทางการเขียน Living will เพื่อให้เป็นไปตามประสงค์ความต้องการของตัวเองสำหรับการเลือก หรือปฏิเสธการรักษาเมื่อถึงระยะสุดท้ายของชีวิต โดยมีบุคลากรแพทย์ และนักวิชาการคอยให้คำแนะนำ และร่วมเสวนาแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับสิทธิการตายดี ร่วมกันกับภาคประชาชน

 

สำหรับกำหนดการเวทีเสวนาและประชุมเชิงปฏิบัติการ 'สร้างเสริมสุขภาวะระยะสุดท้ายของชีวิต สร้างสุขที่ปลายทาง


เวทีแรก จะเริ่มในวันที่ 7 .. 2566 ที่ .ขอนแก่น จัดโดย สช. ร่วมกับเขตสุขภาพที่ 7 และสถานพยาบาลในพื้นที่ 


เวทีที่สอง จัดในวันที่ 18 .. 2566 ที่ .สงขลา จัดโดย สช. ร่วมกับเขตสุขภาพที่ 12 และสถานพยาบาลในพื้นที่ 


เวทีสุดท้าย จัดที่ .นครนายก ในวันที่ 27 .. 2566 ซึ่งจัดโดย สช. ร่วมกับเขตสุขภาพที่ 4 และสถานพยาบาลในพื้นที่เช่นกัน 

 

สำหรับกิจกรรมภายในงานนั้น ช่วงเช้าจะมีบุคลากรการแพทย์ นักวิชาการ รวมถึงตัวแทนภาคประชาชนที่มีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิการตายดี และการเขียนหนังสือแสดงเจตนา หรือ Living will มาบรรยายให้ความรู้กับภาคประชาชน 

 

รวมไปถึงให้เห็นถึงความสำคัญ ประโยชน์ที่จะได้รับหากมีการวางแผนดูแลตัวเองล่วงหน้าเมื่อระยะสุดท้ายมาถึง 

 

ขณะที่ช่วงบ่าย จะเป็นการประชุมปฏิบัติการ หรือ Workshop ร่วมกัน เพื่อให้ภาคประชาชนได้เรียนรู้ และได้ทดลองเขียน Living will ได้อย่างถูกต้อง เพื่อให้นำเอาความรู้ความเข้าใจนี้ไปถ่ายทอด ส่งต่อให้กับสมาชิกในครอบครัวได้เข้าใจ รวมถึงในชุมชนด้วยเช่นกัน 

 

ในปี 2566 สช. นำร่องขับเคลื่อน 3 พื้นที่เขตสุขภาพ และมีแผนจะขยายไปสู่อีก 10 เขตสุขภาพที่เหลือ จนครบ 13 เขตสุขภาพทั่วประเทศ ภายในปี 2567